“นายกประยุทธ์” ชวนคนไทยปลูกป่า เพิ่มพื้นที่สีเขียว พาไทยบรรลุเป้าหมายลดโลกร้อน

นายกรัฐมนตรี ชวนคนไทยร่วมปลูกต้นไม้ช่วยกันเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีหัวใจสีเขียว ร่วมเชิญชวนปลูกป่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ปี ค.ศ. 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ปี ค.ศ. 2065 มอบหมายกรมป่าไม้” แจกกล้าไม้เต็มอัตรา พร้อมย้ำรับได้เลยที่ศูนย์เพาะชำใกล้บ้าน

ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการผลักดันให้มีทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ให้เป็นไปตามเป้าหมายนโยบายป่าไม้แห่งชาติ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เรื่องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทุกประเภทให้ได้ร้อยละ 55 ภายในปีพ.ศ. 2580

อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถ้อยแถลงแสดงเจตนารมณ์ของประเทศไทย ต่อที่ประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่า ด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP 26) ที่จะยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่และทุกวิถีทาง ที่จะทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Greenhouse Gas Emission ภายในปี ค.ศ. 2065

โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการสนองตามนโยบายดังกล่าว ในเรื่องคนสามารถอยู่ร่วมกับป่า และช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ โดยการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกิดความร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วน และสิ่งที่ทุกคนสามารถร่วมกันส่งเสริมให้ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมีความยั่งยืนได้อย่างง่าย ๆ คือ การปลูกต้นไม้ ซึ่ง ทส. พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ ตามนโยบาย ปี 2565 “ทส. ยกกำลังเอ็กซ์” ปีแห่งการปรับตัว และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ “ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามแนววิถีใหม่ ภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” โดยมอบหมายให้กรมป่าไมเป็นหน่วยงานหลัก ดำเนินการแจกจ่ายกล้าไม้ให้กับประชาชนทั่วประเทศ ” มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) การดูดกลับก๊าซเรือนกระจก ในภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน นับมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ซึ่งกรมป่าไม้ ได้ดำเนินมาตรการที่สำคัญประกอบด้วย หนึ่ง การปลูกและฟื้นฟูป่าธรรมชาติ ในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ คทช. (ลุ่มน้ำ 1,2) ป่าชุมชน ป่าอนุรักษ์ และป่าชายเลน เป็นต้น สอง การส่งเสริมการปลูกป่าเศรษฐกิจ ได้แก่ พื้นที่ ค.ท.ช. (ลุ่มน้ำ 3,4,5) พื้นที่ป่าไม้ถาวร พื้นที่ ส.ป.ก. ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่เอกชนที่ดินกรรมสิทธิ์ และสาม การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองและชนบท รวมถึงมาตรการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าและการป้องกันการเผาป่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มการดูดกลับก๊าซเรือนกระจกจากศักยภาพที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้ถึง 120 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดทำโครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู ป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและการเสื่อมสภาพของป่า โดยเฉพาะในพื้นที่เขาสูงชันทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งมีการดำเนินการให้ครอบคลุมในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน ป่าพรุ และในที่ดินของรัฐประเภทอื่นๆ เพื่อเป็นการฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์

สำหรับประชาชนที่มีความสนใจ และต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการนำประเทศไทยมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนให้สำเร็จ สามารถร่วมกันปลูกต้นไม้ โดยสามารถติดต่อขอรับกล้าไม้ ได้ที่ส่วนกลาง ณ กรมป่าไม้ สำนักส่งเสริมการปลูกป่า ส่วนผลิตกล้าไม้ โทร.02-561-4292 ถึง 3 ต่อ 5551 หรือในส่วนภูมิภาคสามารถรับกล้าไม้ ได้ที่ศูนย์หรือสถานีเพาะชำกล้าไม้ในสังกัดกรมป่าไม้ทั่วประเทศ