“พลเอก ประวิตร” สั่งเร่งขับเคลื่อนโครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด ย้ำชัดต้องรับฟังความเห็นประชาชนเพื่อตอบสนองความต้องการอย่างแท้จริง

วันที่ 26 พ.ค. 65 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) มอบหมายให้พลเรือเอก พิเชฐ ตานะเศรษฐ คณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมบูรณาการแนวทางการจัดการอุปสรรคและข้อขัดข้องในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคตะวันออก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมชลประทาน และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อเร่งรัดติดตามการดำเนินการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ณ ห้องประชุม 5203 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร พร้อมลงพื้นที่เพื่อสำรวจสภาพปัญหาจริง ณ จังหวัดจันทบุรี

พลเรือเอก พิเชฐ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้มีการหารือร่วมกันในประเด็นความก้าวหน้าการดำเนินการขับเคลื่อนโครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้นำเสนอปัญหาอุปสรรคและข้อขัดข้องต่าง ๆ เพื่อเร่งรัดหาแนวทางในการแก้ไขโดยเร็ว ให้สามารถดำเนินโครงการฯ ต่อไปได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ นอกจากนี้ ภายหลังจากการประชุม ยังได้มีการลงพื้นที่จริงเพื่อติดตามสถานการณ์และสำรวจสภาพปัญหาในปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินการต่อไปด้วย

“ท่านรองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้มีการรับฟังความคิดเห็นของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเน้นย้ำในการให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน โดยกำชับให้หน่วยงานนำความคิดเห็นและความต้องการของประชาชน มาปรับใช้ในการขับเคลื่อนโครงการฯ เพื่อนำไปสู่แก้ไขปัญหาในพื้นที่และตอบสนองความต้องการอย่างแท้จริง โดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบจะเร่งดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายต่อไป

ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและมั่นคงในการใช้น้ำในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมประเภทไม้ผลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการใช้น้ำของทุกภาคส่วน และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยเฉพาะพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC สามารถรองรับการเจริญเติบโตของภาคเศรษฐกิจได้อย่างพอเพียง พลเรือเอก พิเชฐ กล่าว.