ป.ป.ช.อยุธยา ดึงเครือข่ายเดินหน้าขับเคลื่อนป้องกันการทุจริตเชิงรุก พร้อมสร้างการรับรู้บทบาทของโค้ช และคณะกรรมการชมรม STRONG -จิตพอเพียงต้านทุจริต

ป.ป.ช.อยุธยา  ดึงเครือข่ายเดินหน้าขับเคลื่อนป้องกันการทุจริตเชิงรุก พร้อมสร้างการรับรู้บทบาทของโค้ช และคณะกรรมการชมรม STRONG -จิตพอเพียงต้านทุจริต ให้ไปสู่เป้าหมายและประสบผลสำเร็จ

วันที่ 25 พ.ค.65 ที่ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายพายัพ คชพลายุกต์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เป็นประธานการประชุมเครือข่ายป้องกันการทุจริตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อวางแผนการดำเนินงานป้องกันการทุจริต และขับเคลื่อนการป้องกันการทุจริตเชิงรุกให้เกิดขึ้นในจังหวัด  โดยมี โค้ช  และคณะกรรมการชมรม STRONG -จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดฯ เข้าร่วม

นายพายัพ คชพลายุกต์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการหารือแนวทางการดำเนินงานเครือข่ายป้องกันการทุจริตเพื่อนำไปสู่เป้าหมายให้เกิดเป็นรูปธรรมและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยแนวทางที่ ป.ป.ช.อยุธยา และเครือข่ายตั้งเป้าเดินหน้า  ประกอบด้วย  การรุกล้ำทางเท้าและที่สาธารณะ   อาคารทิ้งร้าง/สิ่งก่อสร้างทิ้งร้าง ไม่เสร็จหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์  การทิ้งขยะที่เป็นปัญหาในเขตเทศบาล  การปลูกจิตสำนึกประชาชน/ประชาสัมพันธ์ชมรม และเรื่องอื่นๆ  ที่ชมรมพบเห็นในพื้นที่

ทั้งนี้  ได้ขอความร่วมมือเครือข่ายของ ป.ป.ช. ที่อยู่ในแต่ละพื้นที่เป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแส  เฝ้าสังเกตการณ์  เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เนื่องจากสถิติคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ช.อยุธยา จะเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริง จำนวน 171 คดี ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 125 คดี  ราชการส่วนภูมิภาค 15  คดี  ราชการส่วนกลาง  31 คดี  จะเป็นประเภทเรื่องร้องเรียน สูงสุด 3 อันดับแรก  ได้แก่  การจัดซื้อจัดจ้าง  การสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน  และกระบวนการยุติธรรม

ขณะเดียวกัน การไต่สวน (คดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นและมีมูลควรไต่สวนต่อไป)  มี 29 คดี  แยกเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  21 คดี  ราชการส่วนภูมิภาค  2 คดี ราชการส่วนกลาง  6 คดี เรื่องร้องเรียนสูงสุด 3  อันดับแรก  ได้แก่  การจัดซื้อจัดจ้าง กระบวนการยุติธรรม และการเงินและการธนาคาร  อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.อยุธยาและเครือข่าย ตั้งเป้าลงพื้นที่เชิงรุกในเดือนมิถุนายนนี้