เกษตรฯ ขยายเวลารับสมัครประกวดสุดยอดกาแฟไทย 2565

กรมวิชาการเกษตร จับมือหน่วยงานรัฐและภาคีภาคเอกชนร่วมจัดงานประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2565 มุ่งเฟ้นหาสุดยอดเมล็ดกาแฟอะราบิกาและโรบัสตาคุณภาพดี ทั้งกลิ่นและรสชาติที่ถูกใจคอกาแฟ หวังเพิ่มมูลค่าขยายโอกาสช่องทางการตลาด และส่งเสริมประชาสัมพันธ์เอกลักษณ์กาแฟไทยสู่กาแฟคุณภาพดีระดับโลก พร้อมเปิดขยายเวลาการรับสมัครและสิ่งประกวดถึงวันที่ 10 มิถุนายนนี้

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร ได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรด้านกาแฟ อาทิ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตร สหกรณ์การเกษตร สมาคม และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในธุรกิจกาแฟ จัดการประกวดสุดยอดกาแฟอะราบิกาและโรบัสตาของประเทศไทย เพื่อค้นหาเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดี ตั้งแต่ต้นทางการปลูกกาแฟ รวมถึงรสชาติกาแฟจนได้เป็นเมล็ดกาแฟไทยเกรดพิเศษ อีกทั้งเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟตระหนักถึงความสําคัญของการปลูกกาแฟที่ทำให้ได้ผลผลิตกาแฟที่มีคุณภาพ และแสดงถึงอัตลักษณ์ของกาแฟไทย พร้อมทั้งยังช่วยส่งเสริมและพัฒนากาแฟไทยให้มีคุณภาพดีสู่ระดับโลก เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ และความยั่งยืนแก่เกษตรกรไทย

การจัดงานในปี 2565 นี้ กรมวิชาการเกษตรได้เปิดขยายเวลาการรับสมัครและสิ่งประกวดกาแฟพันธุ์อะราบิกาและโรบัสตา จากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ไปจนถึงวันที่ 10 มิถุนายน 2565 และได้เพิ่มเติมรายละเอียดลักษณะและปริมาณตัวอย่างสิ่งประกวดกาแฟอะราบิกา ที่ได้จากกระบวนการแปรรูปวิธีเปียก (wet/fully wash process) และกระบวนการแปรรูปวิธีกึ่งแห้ง (semi-dry/honey process) จากเดิม ให้จัดส่งในลักษณะเมล็ดกาแฟสาร ปริมาณ 15 กิโลกรัม เพิ่มเติมเป็น ให้จัดส่งในลักษณะกาแฟกะลาได้ ปริมาณ 50 กิโลกรัม หรือกาแฟสาร ปริมาณ 15 กิโลกรัม ส่วนกาแฟอะราบิกาที่ได้จากกระบวนการแปรรูปวิธีแห้ง จากเดิม ให้จัดส่งในลักษณะเมล็ดกาแฟสาร ปริมาณ 15 กิโลกรัม เพิ่มเติมเป็น ให้จัดส่งในลักษณะกาแฟผลแห้งได้ ปริมาณ 50 กิโลกรัม หรือกาแฟสาร ปริมาณ 15 กิโลกรัม

สำหรับรางวัลและประกาศนียบัตรในปีนี้ ได้แบ่งเป็น 3 รางวัล คือ รางวัลที่ 1 มี 4 รางวัล ได้แก่ สิ่งประกวดที่มีคะแนนสูงที่สุดในแต่ละประเภท จะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท รางวัลที่ 2 มี 4 รางวัล ได้แก่ สิ่งประกวดที่มีคะแนนรองลงมาจากรางวัลที่ 1 ในแต่ละประเภท พร้อมเงินรางวัล จำนวน 30,000 บาท รางวัลที่ 3 มี 4 รางวัล ได้แก่ สิ่งประกวดที่มีคะแนนรองลงมาจากรางวัลที่ 2 ในแต่ละประเภท พร้อมเงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท รวมถึงสิ่งประกวดทุกประเภทที่เข้าทดสอบคุณภาพด้านประสาทสัมผัส (cup Tasting) จะได้รับประกาศนียบัตร แบ่งเป็น 3 ระดับ ตามเกณฑ์ได้รับรางวัลตามมาตรฐานการตัดสินของสมาพันธ์กาแฟโลก (Specialty Coffee Association : SCA)

“ความพิเศษของการประกวดครั้งนี้ คือ กาแฟของผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรกของแต่ละประเภท จะได้รับสิทธิพิเศษในการนำผลิตภัณฑ์กาแฟไปประชาสัมพันธ์ร่วมจัดแสดงให้ชิมในงานมหกรรมพืชสวนโลก EXPO 2022 Floriade Almere ณ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการประชาสัมพันธ์กาแฟไทยสู่เวทีระดับโลก เกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์/วิสาหกิจชุมชนที่สนใจส่งใบสมัครและเมล็ดกาแฟเข้าประกวดได้ ตั้งแต่บัดนี้ – 10 มิถุนายน 2565

หรือสอบถามรายละเอียดการสมัครเพิ่มเติมได้ที่สถาบันวิจัยพืชสวน หมายเลขโทรศัพท์ 0-2940-5484 ต่อ 117 ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5311-4433-6 ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร หมายเลขโทรศัพท์ 0-7755-6073, 0-7755-6191” อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าว