“ศ.สัมพันธ์” นำทีมตรวจเยี่ยมหลักสูตรโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ฯ ม.นวมินทราธิราช ชี้ ปฐมวัย เป็นรากแก้วของการสร้างคน

“ศ.สัมพันธ์” นำทีมตรวจเยี่ยมหลักสูตรโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ฯ ม.นวมินทราธิราช ชี้ ปฐมวัย เป็นรากแก้วของการสร้างคน ที่ส่งต่อ ประถม มัธยม และอุดมศึกษา สู่การพัฒนาประเทศ

วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 : ศ.สัมพันธ์ ฤทธิเดช เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ลงพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยมเพื่อติดตามหลักสูตรโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ฯ ของมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

โดยมี รศ.นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ อธิการบดี และคณะผู้บริหารกล่าวต้อนรับคณะผู้ตรวจเยี่ยมและตัวแทนจากสถานประกอบการมีการรายงานภาพรวมผลการดำเนินงานหลักสูตรบัณฑิตพันธุ์ใหม่ของคณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ หลักสูตรการฝึกอบรมพนักงานช่วยเหลือผู้ป่วย (Nurse Aide Training Program) และหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล (การดูแลผู้สูงอายุ) และผลการดำเนินงานของวิทยาลัยพัฒนาชุมชนเมือง หลักสูตรฝึกอบรมยกระดับสมรรถนะผู้ดูแลเด็กปฐมวัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาวะทางกายของเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็ก กรุงเทพมหานคร การตรวจเยี่ยมดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุม TWP-602 ชั้น 6 อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

ศ.สัมพันธ์ ฤทธิเดช เลขา กกอ. กล่าวว่า ในปัจจุบันแนวโน้มประชากรผู้สูงอายุมีอัตราขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก สาขาการดูแลผู้สูงอายุจึงเป็นสิ่งที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประเทศได้เป็นอย่างดี เพราะนักศึกษาจะมีทักษะเฉพาะทางที่มีความพิเศษและเป็นที่ต้องการของสังคม ชุมชนและประเทศชาติ อว. พร้อมสนับสนุนในทุกๆ ด้าน ทั้งงบประมาณการศึกษาเล่าเรียน หลักสูตรการศึกษา แต่ต้องมีการวางแผนเพื่อการบริหารจัดการที่ถูกต้องครอบคลุมให้มีความเหมาะสม และอีกหนึ่งหลักสูตรที่สำคัญมากในปัจจุบันคือ “การดูแลเด็กปฐมวัย” เพราะเด็กในวันนี้จะเติบโตเป็นรากแก้วที่สำคัญของประเทศ ต้องร่วมกันสร้างทรัพยากรบุคคลเหล่านี้เริ่มแรกอย่างมีคุณภาพ จะส่งต่อสู่ระดับการศึกษาที่สูงขึ้นได้อย่างดีเยี่ยม สู่ปลายทางที่สำคัญคือ การเป็นกำลังคนที่มีสมรรถนะสูงตอบโจทย์ความต้องการของสังคม ชุมชน และประเทศชาติ อย่างที่เราตั้งใจ

ตนอยากให้ในระยะต่อไปมีการวางแผนการบริหารจัดการด้านความเหลื่อมล้ำและอัตราที่มากขึ้นเกินกว่าการรองรับ และเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ อยากให้ทุกๆ คนได้รับโอกาสที่เท่าเทียมและได้รับการดูแลที่เหมาะสม อว. จะช่วยผลักดันหลักสูตรเหล่านี้สู่นโยบายของรัฐ ให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญเริ่มจาก กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดจนระดับประเทศ แต่สิ่งสำคัญคือทุกฝ่ายต้องบูรณาการร่วมกันอย่างจริงจัง ทั้งส่วนกลาง ภาครัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย และตัวนักศึกษา รวมถึงนำความรู้ความสามารถส่งต่อไปสู่ชุมชน ในพื้นที่ สิ่งเหล่านี้จะเป็นการกระจายความรู้และสร้างโอกาสทั้งด้านอาชีพและผู้ที่ไม่มีโอกาสในการเข้ารับการบริการหรือการดูแลรักษาได้อย่างทั่วถึง ครอบคลุมทั้งประเทศได้อย่างแน่นอนในอนาคต ตนมั่นใจ…

ทั้งนี้ โครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่นี้ สามารถทำให้ระบบนิเวศของหลักสูตร การเรียนสอนของประเทศไทย ปรับเปลี่ยนไปเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาสังคม ชุมชนและประเทศชาติ และเท่าทันการศึกษาอุดมศึกษานานาประเทศ