คณะกรรมการโรคติดต่อฯอยุธยา เตรียมพร้อมหลัง ศบค.คลายล็อก 1 พ.ค.65 ปรับพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเฝ้าระวังสูง

คณะกรรมการโรคติดต่อฯอยุธยา เตรียมพร้อมหลัง ศบค.คลายล็อก 1 พ.ค.65 ปรับพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) พร้อมสั่งลุยฉีดวัคซีนเข็ม 3 เป้า 60 % เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่โรคประจำถิ่น

วันที่ 27 เมษายน 2565 เวลา 14.00 น. นายวีระชัย นาคมาศ (นาค-คะ-มาด) ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 15/2565 โดยมี พันเอก(พ) ภัทราวุธ ทิพโกมุท รอง ผอ.รมน.จ. นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นางสมทรง พันธุ์เจริญวรกุล นายก อบจ. และคณะกรรมการฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมมหาธาตุ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นายวีระชัย นาคมาศ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 167 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) จำนวน 563 ราย หายป่วยวันนี้ 151 ราย เสียชีวิตสะสม 50 ราย ซึ่งมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีเตียงรองรับผู้ติดเชื้อ จำนวน 4,896 เตียง ใช้ไป 2,652 เตียง คงเหลือว่าง 2,244 เตียง

นอกจากนี้ ได้เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ระยะ โรคประจำถิ่น หรือโรคติดต่อทั่วไป ( Post-pandemic Covid-19) ระดับจังหวัดโดยกำหนดให้มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรรวมในเข็ม 3 ต้องเกิน 60% และเตรียมความพร้อมการปรับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ตามที่ ศบค.กำหนด ให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปลี่ยนจากพื้นที่ควบคุม เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป

ซึ่งคณะกรรมการพิจารณายังคงไว้ตามมาตรป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด แต่ผ่อนปรนในเรื่องการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ที่จำกัดเวลาจากเดิมไม่เกิน 23.00 น. เป็นไม่เกิน 24.00 น. ต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น และต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting โดยพนักงานจะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม ทั้งนี้ ให้คงมาตรการสำหรับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดในรูปแบบร้านอาหาร ได้ตามมาตรการที่กำหนด โดยต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อนเปิดบริการ ในส่วนการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน On-Site ให้เน้น 6 หลัก 6 เสริม 7 เข้ม เพื่อสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งเน้นย้ำการปฏิบัติตามหลัก DMHTTA อย่างเคร่งครัด การเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย และไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ