กรมพินิจฯ MOU องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยสานต่อ “โครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเด็กและเยาวชน ระยะที่ 2.3” หวังเปลี่ยนเยาวชนที่ก้าวพลาด ให้สามารถพัฒนาทักษะชีวิตและเตรียมความพร้อม สู่การทำงานที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน
วันที่ 26 เมษายน 2565 เวลา 10.00 น. กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมกับ องค์การแพลนอินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเด็กและเยาวชน ระยะที่ 2.3″ โดยมี พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมด้วย Mr. John McGown ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย องค์การแพลนอินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมลงนาม
ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นางสาววันวิสาข์ โคมินทร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ผู้แทนมูลนิธิซิตี้ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามดังกล่าว โดยมี นางนลินนาถ ไกรนรา รองอธิบดีกรมพินิจฯ และนางสาวยุภาพร บุญติด ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการ องค์การแพลนฯ ร่วมลงนามเป็นพยาน ทั้งนี้ นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจฯ ผู้ตรวจราชการกรม ผู้อำนวยการ/ผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกรมพินิจฯ ตลอดจนเจ้าหน้าที่องค์การแพลนฯ เข้าร่วมพิธีด้วย ณ ห้องสนฉัตร ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ และผ่านระบบ VDO Conference.
พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนได้มีความพยายามที่จะทำงานร่วมกับเครือข่ายต่างๆ เพื่อให้การส่งเสริม พัฒนา ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความดูแล ได้กลับไปใช้ชีวิต ทักษะชีวิต และการสนับสนุนทุนประกอบอาชีพ ซึ่งถือเป็นการเติมเต็มการเตรียมความพร้อมให้กับเด็กและเยาวชนได้เป็นอย่างดี และการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเด็กและเยาวชน ระยะที่ ๒.๓ ในครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะพัฒนาทักษะชีวิตของเด็กและเยาวชน ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้ค้นพบศักยภาพและความสามารถในการประกอบอาชีพ และการเรียนรู้เรื่องความเสมอภาคระหว่างเพศเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน พร้อมทุนสนับสนุนการประกอบอาชีพ
โดยเป็นการขยายพื้นที่เป้าหมายให้ครอบคลุมทุกศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ และขอขอบคุณองค์การแพลนอินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ที่สนับสนุนการพัฒนาทักษะชีวิต และทักษะอาชีพเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่สถานประกอบการ/ตลาดแรงงานของเด็กและเยาวชน รวมถึงสนับสนุนการเตรียมความพร้อมให้เด็กและเยาวชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขและเติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นปณิธานของทั้งสองหน่วยงานในการทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนานและจะยั่งยืนต่อไปในอนาคต” พ.ต.ท. วรรณพงษ์ กล่าว
ด้าน Mr. John McGown ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย องค์การแพลนอินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือโครงการดังกล่าวว่า “จากการร่วมงานอันยาวนานระหว่างองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับโอกาสในการร่วมงานกับองค์กรหลักในการทำงานเพื่อการคุ้มครองและพัฒนาเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม เราตระหนักดีว่าการส่งเสริมให้เยาวชนในการเพิ่มพูนทักษะด้านต่างๆ เพื่อเข้าถึงอาชีพที่มั่นคงในอนาคตเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดการกระทำผิดซ้ำของเยาวชน จากความร่วมมือกับมูลนิธิซิตี้ องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จึงได้ริเริ่มโครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเยาวชน ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
และการลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ พวกเรามีความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุความร่วมมืออันเพิ่มพูนยิ่งขึ้นของทั้ง 2 องค์กร เพื่อสร้างหนทางสู่ความก้าวหน้าให้กับเยาวชน ทั้งนี้บทบาทความร่วมมือของเราที่กำหนดไว้ใน MOU ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะดำเนินโครงการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย และเพื่อให้พวกเขาสามารถบรรลุศักยภาพสูงสุดในฐานะพลเมืองที่มีประสิทธิภาพของประเทศไทยจากวันนี้เป็นต้นไป และในอนาคตอีกด้วย และผมขอขอบคุณมูลนิธิซิตี้ที่ได้ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องสำหรับงานที่มีความสำคัญอย่างมากนี้ และขอขอบคุณกรมพินิจฯ และเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด” Mr. John McGown กล่าวปิดท้าย