บ้านผึ้งโมเดล ตำบลขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลอุบัติเหตุ

การเกิดอุบัติเหตุเพียง 1 ครั้ง นำมาซึ่งการสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ อุบัติเหตุทางถนนจะเป็นศูนย์ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจากคนในชุมชน เพราะอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะในเขตชุมชนยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะในช่วงเทศกาลหยุดยาว อย่างเทศกาลปีใหม่ หรือสงกรานต์เท่านั้น แม้แต่ในช่วงเวลาปกติ อุบัติเหตุทางถนน ก็ยังคงครองตำแหน่งการเป็นสาเหตุหลักที่สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของประเทศอยู่เสมอ

การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจึงถือเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมต้องร่วมมือกัน อย่างเช่น ที่ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พื้นที่ต้นแบบ “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” ที่มีผลงานการดำเนินงานการป้องกันและลดอุบัติเหตุในพื้นที่ชุมชนได้สำเร็จในระดับที่น่าพอใจ โดยมีพี่เลี้ยงอย่าง สอจร. จังหวัดนครพนม ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งการดำเนินงานของตำบลบ้านผึ้งนั้น มีกิจกรรมที่หลากหลายและครอบคลุม จนนำไปสู่การเป็นต้นแบบ “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” ของจังหวัดนครพนม

นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวถึงการลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานตำบลขับขี่ปลอดภัย อบต. บ้านผึ้ง จังหวัดนครพนม ว่า “การดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ตำบลบ้านผึ้ง จังหวัดนครพนมนั้น ถือเป็นพื้นที่ต้นแบบของตำบลขับขี่ปลอดภัยที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เป็นต้นแบบการทำงานด้านการส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนให้กับหลาย ๆ พื้นที่ได้เป็นอย่างดี

“สสส. ได้เข้าไปหนุนเสริมความรู้ ผ่าน สอจร. ภาคอีสานตอนบนและกองร้อยน้ำหวานในชุมชน พัฒนาศักยภาพแกนนำ จัดการเครื่องมือกลไก จัดทำแผนความปลอดภัยในระดับตำบล แก้ไขจุดเสี่ยง รณรงค์สร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนในการปรับพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนที่ถูกต้องและปลอดภัย ภายใต้การทำงานของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนระดับท้องถิ่น (ศปถ.อปท.) ร่วมกันดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการในระดับตำบล รวมถึงการประเมินผลการดำเนินงานของแผน ซึ่งพบว่า ช่วยป้องกันและลดการบาดเจ็บรุนแรง รวมทั้งการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ชุมชนได้จริง” นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว

นายสมบูรณ์ นาคะอินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านผึ้ง กล่าวถึงการดำเนินงานตำบลขับขี่ปลอดภัย ของ อบต. บ้านผึ้ง ว่า ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของตำบลบ้านผึ้ง มีบทบาทหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาภัยให้กับประชาชนในลำดับแรก จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนและจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนระดับท้องถิ่น (ศปถ.อปท.) ทำงานแบบบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่ โดยดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือน้อยที่สุด รวมทั้งดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยให้ความสำคัญในการสร้างจิตสำนึกและความตระหนักด้านความปลอดภัยทางถนนให้แก่ประชาชน

“การบริการจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนนของพื้นที่ อบต. บ้านผึ้งจะใช้กระบวนการ “1669 Model” โดยมี อปพร. กองร้อยน้ำหวาน อสม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกับชุมชน สามารถลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ตำบลบ้านผึ้งลงได้อย่างมีนัยยะสำคัญ รวมถึงได้บรรจุงานป้องกันและแก้ไขปัญหา ลดอุบัติเหตุทางถนน ขับเคลื่อนให้เป็นตำบลขับขี่ปลอดภัย ลงในแผนพัฒนาท้องถิ่นของ อบต. บ้านผึ้งอีกด้วย” นายก อบต. บ้านผึ้ง กล่าว

ไม่เพียงแค่การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนระดับท้องถิ่น (ศปถ.อปท.) เท่านั้น ตำบลบ้านผึ้ง จ.นครพนม ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่ส่งเสริมและขับเคลื่อนให้เกิดตำบลขับขี่ปลอดภัยอีกมากมาย อาทิ

1.การรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยและป้ายเตือนขับขี่ปลอดภัยในพื้นที่ชุมชน

2.ขับเคลื่อนกิจกรรมผ่านเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ ผ่านโครงการ “เด็กฟันน้ำนมหัวแข็ง” และโครงการ “สูงวัยขับขี่ปลอดภัย” ซึ่งบรรจุไว้ในแผนพัฒนาท้องถิ่น

3.ขับเคลื่อนกิจกรรมผ่านสถานศึกษา ในโครงการ “โรงเรียนหัวแข็ง ขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย สร้างวินัยจราจร”

4.กิจกรรม Big Cleaning Day ทำความสะอาดหมู่บ้าน ให้ประชาชนช่วยกันดูแล ปรับสภาพแวดล้อม ปรับสภาพเส้นทาง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่

5.ขับเคลื่อนให้เกิด “ธรรมนูญตำบล” สร้างกฎระเบียบการขับขี่ที่ปลอดภัยในชุมชน

6.กิจกรรมธนาคารหมวกบุญ

7.โครงการสวมหมวกนิรภัย 100% ทั่วทุกภาคส่วนราชการในตำบลบ้านผึ้ง

8.งานศพปลอดเหล้า งานเศร้าปลอดการพนัน

“1669 Model” สร้างตำบลขับขี่ปลอดภัย ของตำบลบ้านผึ้ง จังหวัดนครพนม มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง มาดูกัน

1 นำ

ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนระดับท้องถิ่น (ศปถ.อปท.) ตำบลบ้านผึ้ง เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน โดยสร้างเครือข่าย ระบบ กลไก การบริหารจัดการ วางแผนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ

หลัก 6 P

P1 = Plan การวางแผนร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ตำบลบ้านผึ้ง ร่วมกันวางแผนปฏิบัติการ แผนงานโครงการ และงบประมาณในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน

P2 = Public หน่วยงานที่ให้บริการสาธารณะในตำบลบ้านผึ้ง ต้องเข้ามาร่วมขับเคลื่อนและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ได้แก่ อบต.บ้านผึ้ง ใช้กำลัง อปพร. กำนันผู้ใหญ่บ้าน ใช้ชุด ชรบ.หมู่บ้าน รพ.สต. ใช้กำลัง อสม. และสถานศึกษาจำนวน 9 แห่ง

P3 = People ประชาชนในตำบลบ้านผึ้งต้องปฏิบัติตามกฎจราจร และกฎหมู่บ้าน

P4 = Perception สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ให้กับคนในตำบลว่ากำลังทำอะไรอยู่ และต้องทำให้เขามีความรู้สึกตาม และตัดสินใจร่วมในสิ่งที่ทำ

P5 = Participation การมีส่วนร่วมของทุกหน่วยงาน ประชาชน ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน แสดงความคิดเห็น หาวิธีการและแนวทางในการสร้างชุมชนให้ปลอดภัย

P6 = Partnership การเป็นหุ้นส่วน ต้องสร้างจิตสำนึกในการเป็นเจ้าของชุมชน โดยประชาชนและทุกส่วนราชการจะต้องรับรู้ เข้าใจ ในกฏกติกาของชุมชน และต้องร่วมรับผิดชอบในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

หลัก 6 E

E1 = Education จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้วินัยจราจรครอบคลุมทุกส่วน ในด้านการใช้รถใช้ถนนและกฎจราจร

E2 = Enforcement การบังคับใช้ “ธรรมนูญตำบล” ประชาชนต้องปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับด้านความปลอดภัยทางถนน

E3 = Environment ปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการใช้รถใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย

E4 = Engineering การควบคุมและจัดการด้านความพร้อมของยานพาหนะให้มีความปลอดภัยในการขับขี่

E5 = Empowerment การเสริมพลังให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน โดยให้ กู้ชีพ อปพร. อสจร. ตชต. ชรบ. สถานศึกษา ร่วมรณรงค์ในช่วงเทศกาล

E6 = Evaluation มีการประเมินผล โดยมีคณะกรรมการและหน่วยงานภาครัฐจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมตรวจประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนระดับท้องถิ่น (ศปถ.อปท.)

9 หนุน

หนุนที่ 1 = ศูนย์กู้ชีพกู้ภัย อบต.บ้านผึ้ง เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วในการเข้าให้ความช่วยเหลือ ซึ่งผ่านการฝึกอบรม มีความชำนาญ และมีรถกู้ชีพกู้ภัย มีเครื่องมือพร้อมที่ได้มาตรฐาน

หนุนที่ 2 = อปพร. ตำบลบ้านผึ้ง เป็นหน่วยจัดตั้งจุดอำนวยความสะดวกทางถนนในช่วงเทศกาล และเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางถนน ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

หนุนที่ 3 = กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน เป็นหน่วยในการขับเคลื่อนกิจกรรมด่านชุมชน ในช่วงเทศกาลงานบุญประเพณี เป็นหน่วยที่บังคับใช้กฎชุมชน

หนุนที่ 4 = โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 3 แห่ง เป็นหน่วยอบรมให้ความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และมีอสม. เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เป็นหน่วยประชาสัมพันธ์ทางด้านความปลอดภัยทางถนน โดยใช้ อสม. เป็นฐาน

หนุนที่ 5 = สถานศึกษา 9 แห่ง อบรมให้ความรู้และขับเคลื่อนกิจกรรมความปลอดภัยทางถนนในสถานศึกษาให้กับนักเรียน เพื่อปลูกฝังวินัยจราจรให้เกิดขึ้นตั้งแต่เด็ก

หนุนที่ 6 = สภ.เมืองนครพนม อสจร. ตชต. เป็นหน่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ดูแลความปลอดภัยทางถนน กวดขันวินัยจราจร เป็นหน่วยที่บังคับใช้กฎหมายในการขับขี่ยานพาหนะของประชาชน

หนุนที่ 7 = บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขานครพนม เป็นหน่วยขับเคลื่อนกิจกรรม พรบ. 100% ให้ความรู้และบริการเชิงรุกในการส่งเสริมให้ประชาชนทำประกันภัยภาคบังคับ

หนุนที่ 8 = สมาคมกู้ภัยศรีสัตตนครพนม เป็นหน่วยที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุและขับเคลื่อนกิจกรรม “ไฟชีวิต” ซ่อมแซม เปลี่ยนหลอดไฟรถจักรยานยนต์ให้กับประชาชนฟรี ร่วมดูแลติดตามผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุทางถนนหลังรับการรักษาพยาบาลในโครงการ “ผลัดใบบุญ”

หนุนที่ 9 = ทางหลวงนครพนม เป็นหน่วยที่ดูแลสภาพแวดล้อมของถนนให้มีความเหมาะสม และปลอดภัยต่อการขับขี่ตามหลักวิศวกรรม แก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงในพื้นที่ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านผึ้งและคณะทำงาน

การดำเนินงานของตำบลบ้านผึ้ง จ.นครพนม ทำให้เห็นว่าการลดอัตราการบาดเจ็บและจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนโดยเฉพาะเขตในชุมชนนั้น จะประสบความสำเร็จได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่จะไขประตูนำไปสู่การสร้างค่านิยมการ “ขับขี่ปลอดภัย” ให้เกิดขึ้นได้ด้วยพลังของคนในชุมชน เพื่อชุมชนอย่างแท้จริง

การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ยังคงเป็นภารกิจสำคัญที่ สสส. และภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนและทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตระหนักในการขับขี่ปลอดภัย ด้วยการสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้รถ ใช้ถนนอย่างถูกต้อง เคารพกฎจราจร สวมหมวกกันน็อก คาดเข็มขัดนิรภัย ลดความเร็ว ดื่มไม่ขับ รวมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เพื่อลดความสูญเสีย และสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน