สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 เม.ย. 65 เวลา 7.00 น.

+ ภาคเหนือฝนตกหนักในบางแห่ง ทางด้านตะวันตกของภาคกลางและภาคใต้ตอนบน มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ฝั่งตะวันออก

+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักมาก บริเวณ จ.เลย (151 มม.) จ.ตาก (123 มม.) และ จ.พะเยา (121 มม.)

+ ปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั้งประเทศทุกขนาด 24,309 ล้าน ลบ.ม. (42%) ขนาดใหญ่ 18,721 ล้าน ลบ.ม. (39%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 แห่ง (เขื่อนภูมิพล และ สิริกิติ์)

+ คุณภาพน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน บางปะกง แม่กลอง อยู่ในเกณฑ์ปกติ ปริมาณออกซิเจนละลายในแม่น้ำ ที่ท่าจีน ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

+ สทนช. ประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์และแนวทางการจัดทำข้อเสนอแผนงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2565 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้ง ปี 2565/66 ให้กับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตามแนวทาง 13 มาตรการรับมือฤดูฝนเพื่อให้การดำเนินการ 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 65 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรับมือได้ทันต่อสถานการณ์ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเตรียมความพร้อมในการจัดทำข้อเสนอแผนงานโครงการให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามแผนงานโครงการเร่งด่วน ซึ่งโครงการที่หน่วยงานเสนอจะต้องมีพื้นที่เป้าหมายที่ชัดเจน มีความพร้อมดำเนินการได้ทันที และสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน หลังจากได้รับการจัดสรรงบประมาณ ที่สำคัญจะต้องเป็นโครงการที่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมและได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่

โดย สทนช. ได้กลั่นกรองและจัดกลุ่มแผนงานโครงการให้สอดคล้องกับการดำเนินการของแต่ละกิจกรรม เมื่อหน่วยงานได้ทำการวิเคราะห์ ตรวจสอบ ประเมินพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม และความพร้อมดำเนินการโครงการให้สอดคล้องตามมาตรการรองรับสถานการณ์ฤดูฝน ปี 65 แล้ว จะต้องจัดทำรายละเอียดแผนงานโครงการ โดยบันทึกผ่านระบบบริหารจัดการแผนงานโครงการและฐานข้อมูลสำหรับบูรณาการแผน เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ หรือระบบ Thai Water Plan (TWP) เพื่อให้คณะอนุกรรมการ ทรัพยากรน้ำจังหวัด พิจารณารวบรวม กลั่นกรอง ประสานตรวจสอบสถานภาพความพร้อมดำเนินการ ความซ้ำซ้อน และความสอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนตามความจำเป็น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเชิงพื้นที่ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้ สทนช. จะกํากับ ติดตามผลการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานให้สอดคล้องตามมาตรการ และรายงานให้กนช. และ ครม. รับทราบต่อไป