รายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 16 เมษายน 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 16 เมษายน 2565 ดังนี้

1. ผลการดำเนินงานตาม 9 มาตรการ รองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ฤดูแล้ง ปี 2564/65
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้บินปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบริเวณ อำเภอ
เมืองศรีสะเกษ อำเภอวังหิน อำเภอพยุห์ อำเภอน้ำเกลี้ยง อำเภอยางชุมน้อย และอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักในพื้นที่เหนือเขื่อนห้วยหลวง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เขื่อนน้ำอูน อำเภอพังโคน และเขื่อนน้ำพุง อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร

2. แหล่งน้ำทั่วประเทศ
2.1 แหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำใช้การ 24,771 ล้าน ลบ.ม. (43%) แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดใหญ่
38 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 19,116 ล้าน ลบ.ม. (40%) ขนาดกลาง 355 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 3,091 ล้าน ลบ.ม. (61%) และขนาดเล็ก 139,894 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 2,565 ล้าน ลบ.ม. (51%) สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์
2.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) ปริมาณน้ำใช้การ 4,033 ล้าน ลบ.ม. (22%) โดยเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย

3. ผลการจัดสรรน้ำ (สะสมตั้งแต่ 1 พ.ย. 64 ถึงปัจจุบัน)
3.1 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถจัดสรรน้ำได้มีจำนวน 35 แห่ง มีปริมาณน้ำใช้การทั้งสิ้น 18,980
ล้าน ลบ.ม. (40%) มีแผนการจัดสรรน้ำ 16,678 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 15,877 ล้าน ลบ.ม. (95%)
3.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีแผนการจัดสรรน้ำ 4,700 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 4,896
ล้าน ลบ.ม. (104%)

4. คุณภาพน้ำ และแจ้งเตือนน้ำทะเลหนุนสูง
4.1 คุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ในแม่น้ำสายหลักทั่วประเทศ คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
4.2 ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า คาดว่าระดับน้ำจะขึ้นสูงสุด เวลา 05.15 น. ประมาณ 1.34 ม. จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติวิเคราะห์แล้วพบว่ายังไม่มีผลกระทบ
ต่อคุณภาพน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา

5. การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์
กรมชลประทาน ได้ดำเนินการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ตามมาตรการฤดูแล้ง ปี 2564/65 ให้กับเกษตรกรผ่าน 3 เครือข่าย ได้แก่
1) เครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าการเกษตร
2) คณะกรรมกรรมการจัดการชลประทาน 3) เครือข่ายกลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทาน รวมทั้งสิ้น 13,371 ครั้ง มีเกษตรกรเข้าร่วม จำนวน 62,628 คน