กรมการขนส่งทางรางเผยวันแรกของเทศกาลสงกรานต์มีผู้ใช้บริการระบบราง รวม 656,325 คนและประสานผู้ให้บริการระบบรางเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางกลับต่างจังหวัด

กรมการขนส่งทางรางเผยวันแรกของเทศกาลสงกรานต์มีผู้ใช้บริการระบบราง รวม 656,325 คนและประสานผู้ให้บริการระบบรางเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางกลับต่างจังหวัดซึ่งคาดว่าวันนี้จะมีผู้โดยสารเดินทางมากที่สุด

12 เมษายน 2565 กรมการขนส่งทางราง สรุปปริมาณการเดินทางด้วยระบบรางของประชาชนวันแรกของช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 พบว่า วันที่ 11 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ 2565 มีประชาชนมาใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 656,325 คน แบ่งเป็นรถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 42,808 คน และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) จำนวน 613,517 คน โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.รถไฟของ รฟท. จำนวน42,808 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 17,209 คนและเชิงสังคม 25,599 คน โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 23,842 คน และผู้โดยสารขาเข้า 18,966 คน โดย รฟท.ได้จัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 1 ขบวน เส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี มีผู้ใช้บริการขบวนนี้ 945 คน และพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 13,216 คน (ผู้โดยสารขาออก 7,030 คน ผู้โดยสารขาเข้า 6,186 คน) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 11,375 คน (ผู้โดยสารขาออก 7,202 คน ผู้โดยสารขาเข้า 4,173 คน) สายเหนือ 9,634 คน (ผู้โดยสารขาออก 5,566 คน ผู้โดยสารขาเข้า 4,068 คน) สายตะวันออก 6,068 คน (ผู้โดยสารขาออก 2,769 คน ผู้โดยสารขาเข้า 3,299คน) และสายแม่กลอง 2,515 คน (ผู้โดยสารขาออก 1,275 คน ผู้โดยสารขาเข้า 1,240 คน)

2.ระบบรถไฟฟ้า จำนวน 613,517 คนประกอบด้วย รถไฟฟ้า Airport Rail Link จำนวน 31,657 คน รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) จำนวน 7,487 คน รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) จำนวน 23,848 คน รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) จำนวน 172,987 คน และรถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) จำนวน 377,538 คนโดย รฟท.ได้เพิ่มตู้โดยสารพ่วงไปกับขบวนรถปกติ และส่วนระบบรถไฟฟ้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้าและเย็นได้เพิ่มรถเสริม รวม 9 เที่ยว ได้แก่ Airport Rail Link เพิ่มรถเสริมจำนวน 2 เที่ยว และสายเฉลิมรัชมงคล(สีน้ำเงิน) เพิ่มรถเสริมจำนวน 7 เที่ยว

สำหรับด้านความปลอดภัย มีอุบัติเหตุรถไฟของ รฟท. จำนวน 1 ครั้ง และมีรถไฟฟ้าขัดข้องจำนวน 2 ครั้ง ดังนี้

1.เมื่อเวลา 09.25 น. ขบวนรถธรรมดาที่ 201 (กรุงเทพ – พิษณุโลก) ขณะทำขบวนผ่านประแจเบอร์ 52 ในย่านสถานีกรุงเทพ รถพ่วง 2 คันสุดท้าย (บชส.1133, บชส.1052) ได้เบียดกับรถพ่วงคันสุดท้าย (บสพ.1007) ของขบวนรถพิเศษสินค้าห่อวัตถุที่ 985 (กรุงเทพ – สุไหงโกลก)ได้รับความเสียหายรวม 3 คัน ไม่มีรถจักรและรถพ่วงตกราง ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย แก้ไขเบื้องตันโดยตัดตู้รถ บชส.1133, 1052 ของ ขบวน 201 ไว้ที่เกิดเหตุ ส่งผลให้ขบวน 201 กรุงเทพ ออก 10.00 น. ช้า 35 นาที

2. เมื่อเวลา 16.00 น. สายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ระบบไฟฟ้าขับเคลื่อนชั่วคราว และแก้ไขได้เวลา 16.07 น. ส่งผลให้มีขบวนรถล่าช้าเกิน 5 นาที 3 เที่ยว

3.เมื่อเวลา23.59 น. สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระบบเครื่องนับเพลาล้อขัดข้องที่สถานีบางซ่อนฝั่งขาออก ส่งผลให้มีขบวนรถล่าช้าเกิน 5 นาทีจำนวน 1 เที่ยว

และเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 เมื่อเวลา 11.45 น. รถไฟขบวนรถดีเซลรางด่วนที่ 71 (กรุงเทพ-อุบลราชธานี) ได้เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อไทเกอร์ สีขาว-ดำ ทะเบียน กทม 514 พระนครศรีอยุธยา บริเวณจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ ระหว่างสถานีบ้านโพ-สถานีอยุธยา ทางเข้าวัดพนัญเชิง เมื่อเวลา 11.41 น. เป็นเหตุให้เสียชีวิต 2 ราย สาเหตุเนื่องจากการฝ่าไม้กั้นรถไฟ ขร. ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่เสียชีวิต และขอความร่วมมือผู้ขับขี่หยุดรถดูความปลอดภัยก่อนข้ามจุดตัดทางรถไฟและไม่ฝ่าฝืนเครื่องกั้นถนนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซึ่งอาจก่อให้เกิดความสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สิน โดยทางกระทรวงคมนาคมได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่าน จัดเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรืออาสาสมัครมาประจำจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับที่เป็นทางลักผ่าน เพื่อช่วยกันป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

สำหรับในวันที่12 เม.ย.65 คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัดมากที่สุด โดยกรมการขนส่งทางรางประสาน รฟท. เพิ่มตู้โดยสารเพิ่มเติมไปกับขบวนรถทางไกล และจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 4 ขบวน ในเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่, กรุงเทพ-อุดรธานี, กรุงเทพ-อุบลราชธานี และกรุงเทพ-ศิลาอาสน์ รวมทั้งมีขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารขาเข้า 1 ขบวนในเส้นทางอุบลราชธานี-กรุงเทพ และเตรียมริ้วขบวนรองรับเพิ่มเติมควบคู่กับการประเมินผู้โดยสารช่วงเย็น รวมทั้งประสานผู้ให้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มความถี่ในการให้บริการในช่วงเย็นของวันนี้