สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 8 เม.ย. 65

+ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคเหนือและส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.เชียงใหม่ (62 มม.) จ.แม่ฮ่องสอน (48มม.) และ จ.พังงา (46 มม.)

+ ปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั้งประเทศทุกขนาด 25,970 ล้าน ลบ.ม. (45%) ขนาดใหญ่ 20,190 ล้าน ลบ.ม. (42%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 3 แห่ง (เขื่อนแม่งัด ภูมิพล และ สิริกิติ์)

+ คุณภาพน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน บางปะกง แม่กลอง อยู่ในเกณฑ์ปกติ ปริมาณออกซิเจนละลายในแม่น้ำ ที่ท่าจีน ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

+ กอนช. ติดตามสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ในช่วงวันที่ 8 –14 เม.ย. 65 เนื่องจากการเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนจิ่งหง (สาธารณรัฐประชาชนจีน) พบว่าวานนี้ (7 เม.ย. 65) ระดับน้ำที่สถานีจิ่งหง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพิ่มขึ้น 0.19 เมตร โดยมีอัตราการระบายน้ำจากเดิม 2,030 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,192 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้น 162 ลบ.ม./วินาที ซึ่งอาจส่งผลกระทบในพื้นที่ ดังนี้

 ช่วงเหนือเขื่อนไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บริเวณสถานีเชียงแสน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย คาดการณ์ในช่วงวันที่ 8–10 เม.ย. 65 ระดับน้ำแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 0.6–0.7 เมตร

 ช่วงท้ายเขื่อนไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บริเวณ อ.เชียงคาน จ.เลย อ.เมือง จ.หนองคาย อ.เมือง จ.นครพนม อ.เมือง จ.มุกดาหาร และ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี คาดการณ์ในช่วงวันที่ 11 –14 เม.ย. 65 ระดับน้ำแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 0.5–0.6 เมตร โดยขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนไซยะบุรี

ทั้งนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติขอให้จังหวัดบริเวณริมแม่น้ำโขง โปรดประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงและแจ้งเตือนให้ประชาชนที่สัญจรและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง รวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณ 8 จังหวัด ริมแม่น้ำโขง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่ีอาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขงอย่างฉับพลัน