ดีป้า จับมือพันธมิตรรัฐ-เอกชน สร้างสรรค์ระบบบริการเมืองด้วยดิจิทัลหวังยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เพื่อก้าวสู่เมืองอัจฉริยะน่าอยู่ในอนาคต

7 เมษายน 2565, กรุงเทพมหานคร – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นประธานการเปิดตัวโครงการ depa Smart Living Solution ระหว่าง ดีป้า และหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน หวังสร้างความตระหนักด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้บริการเมืองอัจฉริยะ เกิดต้นแบบความร่วมมือระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นกับภาคเอกชนในการสร้างสรรค์ระบบบริการเมืองด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ตรงกับความต้องการของประชาชน จากนั้นมอบประกาศนียบัตรเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ จำนวน 13 เมือง เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 45 เมือง

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานในพิธีเปิดตัวโครงการ depa Smart Living Solution โดยมี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า พร้อมด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงผู้แทนเมืองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) มาสเตอร์การ์ด บริษัท ซีเมนส์ จำกัด บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท วันลิ้งค์ เทคโนโลยี่ จำกัด บริษัท ดี.ที.ซี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกเทศมนตรี ร่วมงานดังกล่าวโดยพร้อมเพรียง ณ HACKaTHAILAND Venue @True Digital Park กรุงเทพมหานคร

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า โครงการ depa Smart Living Solution มีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างความตระหนักด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้บริการเมืองอัจฉริยะ ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการวางแผนธุรกิจบริการเมืองแบบร่วมลงทุน หรือ Private Public Partnership (PPP) และจับคู่ความต้องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นกับภาคเอกชนที่มีความพร้อมร่วมมือเพื่อให้บริการเมืองอัจฉริยะ

“กระทรวงดิจิทัลฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการดำเนินโครงการ depa Smart Living Solution ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดต้นแบบการให้บริการเมืองอัจฉริยะของหน่วยงานท้องถิ่นที่สามารถต่อยอดและขยายผลได้ในอนาคต นำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาบริการเมืองอัจฉริยะที่เป็นรูปธรรม อีกทั้งช่วยแก้ไขปัญหาจำเป็นเร่งด่วน และสอดคล้องกับแนวทางการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไว้รัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในปัจจุบัน” นายชัยวุฒิ กล่าว

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ให้เกียรติมอบประกาศนียบัตรเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะเพิ่มเติม จำนวน 13 เมือง ประกอบด้วย

1. เมืองอัจฉริยะต้นแบบย่านรัตนโกสินทร์

2. พัฒนาสุราษฎร์ธานีเป็นเมืองอัจฉริยะ

3. เทศบาลเมืองศรีสะเกษ

4. เขาคันทรงโมเดล เมืองแห่งความสุขที่พึงประสงค์และสังคมแห่งการแบ่งปัน

5. ปัตตานีเมืองอัจฉริยะ

6. การพัฒนาเมืองนราธิวาส เมืองอัจฉริยะ

7. พิษณุโลกนครอัจฉริยะอย่างยั่งยืน

8. เมืองอัจฉริยะเคหะชุมชนดินแดงในพื้นที่พื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง

9. ลำปางเมืองอัจฉริยะ

10. เทศบาลนครนครศรีธรรมราชเมืองอัจฉริยะ

11. เทศบาลแม่เหียะเมืองอัจฉริยะ

12. มาบข่าเมืองอัจฉริยะ

13. เมืองตากสมาร์ตซิตี้

ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า โครงการ depa Smart Living Solution ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเครือข่ายพันธมิตร ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นต้นแบบความร่วมมือระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นกับภาคเอกชนในการสร้างสรรค์ระบบบริการเมืองด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ตรงกับความต้องการของประชาชน ซึ่งประชาชนจะได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการใช้ชีวิต และนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อีกทั้งแก้ไขปัญหาในพื้นที่เป้าหมายเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะของ ดีป้า โดยผู้สนใจเข้าร่วมโครงการเพื่อพัฒนาระบบบริการด้าน Smart Living (การดำรงชีวิตอัจฉริยะ) สามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง Facebook Page: Smart City Thailand Office และ Website: https://www.depa.or.th/th/smart-city-plan

“ที่ผ่านมามีเมืองที่มีสถานะเป็นเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ จำนวน 45 เมือง และในจำนวนนี้มีเมืองที่ได้รับตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะแล้วทั้งสิ้น 15 เมือง โดยการมอบประกาศนียบัตรเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะอีก 13 เมืองในวันนี้เป็นการมอบเพิ่มเติมให้กับเมืองที่ประสงค์จะยื่นข้อเสนอเข้าสู่การประเมินเมืองอัจฉริยะ ซึ่ง ดีป้า ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ นับเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เตรียมความพร้อมให้กับเมือง เพื่อวางแผนและเข้าสู่การประเมิน สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาแผนโครงการและบริการในเมืองอัจฉริยะในทางปฏิบัติ และสร้างบุคคาลากรที่มีทักษะ ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศในอนาคต จนเกิดเป็นโครงการสำคัญอย่าง โครงการนักดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ รุ่นที่ 2 และโครงการ depa Smart Living Solution ในวันนี้” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว