รองผู้ว่า & คุณนายสายลุย นำทีมคณะทำงานชุด 2 พุ่งเป้าขับเคลื่อนขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่ อ.ทุ่งศรีอุดม และ อ.น้ำขุ่น จ.อุบลฯ
วันที่ 5 เมษายน 2565 นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ นางศลิษา ภิรมย์รัตน์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี หัวคณะทำงานขับเคลื่อน ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และประชาสัมพันธ์การดำเนินงานการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คณะที่ 2 ประกอบด้วย สัสดีจังหวัด ผู้แทนศึกษาธิการจังหวัด ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูรจังหวัด ผู้แทนเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด ผู้แทน ผอ.กศน.จังหวัด และผู้แทนพัฒนาการจังหวัด ลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินงานการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในเขตพื้นที่อำเภอทุ่งศรีอุดม และอำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี
รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย นำโดย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นแกนหลักในการดำเนินงานขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การแก้ปัญหาความยากจน แบบพุ่งเป้าแต่ละครัวเรือน ซึ่งในระดับจังหวัด กำหนดให้มีศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัด (ศจพ.จ.) และในส่วนระดับอำเภอ มีศูนย์อำนวยการปฏิบัติการฯ อำเภอ (ศจพ.อ.) และระดับปฏิบัติการ ผ่านทีมปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในระดับพื้นที่ เป็นกลไกในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน
โดยใช้ข้อมูลในระบบ โดยใช้ข้อมูลจากระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform : TPMAP) เป็นเครื่องมือในการดำเนินงาน โดยใช้หลัก 4ท ประกอบด้วย
1)ทัศนคติ ต่อชีวิต ต่อการทำงาน ต่อสภาพปัญหา
2)ทักษะ ฝีมือ ทักษะอาชีพ
3)ทรัพยากรในครอบครัว (ศักยภาพของครัวเรือน) หรือทุนชุมชน
4)ทางออก คือการหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกจุด ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และได้มีการตั้ง “ทีมพี่เลี้ยง” เข้าไปดำเนินการจัดทำแผนครัวเรือนร่วมกับทุกครัวเรือนยากจนในทุกหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อไปรับทราบปัญหา ช่วยหาทางแก้ไข และให้การสนับสนุนให้ครัวเรือนมีการวางแผน/แก้ปัญหาตรงตามสภาพปัญหาที่แต่ละครอบครัวกำลังเผชิญ เมื่อทราบปัญหาของแต่ละครอบครัวแล้ว ทีมพี่เลี้ยงจะได้นำข้อมูลมารายงาน ศจพ.อ. เพื่อบูรณาการความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสิ้นในระดับอำเภอ โดยประกอบด้วย 5 มิติ ได้แก่
1)ด้านสุขภาพ เช่น การดูแลสุขภาพ การติดตามผู้ป่วยเรื้อรัง
2)ด้านความเป็นอยู่ เช่น ปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
3)ด้านการศึกษา เช่น การฝึกอาชีพ
4)ด้านรายได้ เช่น การจัดหาที่ดินทำกิน เกษตรแปลงใหญ่
5)ด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ โดยทีมพี่เลี้ยงจะลงไปพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของครัวเรือนยากจนอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
จังหวัดอุบลราชธานี มีกลุ่มเป้าหมายที่ได้ดำเนินการตรวจสอบและรับรองข้อมูลจากทั้ง 25 อำเภอ และบันทึกข้อมูลในระบบ TPMAP Logbook เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำนวน 10,751 ครัวเรือน จำแนกเป็นครัวเรือนที่พัฒนาได้ 1,364 ครัวเรือน ครัวเรือนที่ต้องสงเคราะห์ 1,569 ครัวเรือน และครัวเรือนที่ไม่ขอรับการช่วยเหลือ 7,754 ครัวเรือน ในส่วนของอำเภอทุ่งศรีอุดม มีเป้าหมายทั้งสิ้น 461 ครัวเรือน และอำเภอน้ำขุ่น มีเป้าหมายรวม 323 ครัวเรือน
โดยในเวลา 13.30 น. คณะทำงานขับเคลื่อน ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และประชาสัมพันธ์การดำเนินงานการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คณะที่ 2 และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดอุบลราชธานี ได้ลงพื้นที่เพื่อบูรณาการความร่วมมือและให้กำลังใจ ตลอดจนให้คำแนะนำทีมพี่เลี้ยง พร้อมเยี่ยมเยือนครัวเรือนเป้าหมายตามโครงการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ณ ครัวเรือนเป้าหมาย นางสาวประครองใจ ระดาบุตร อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 182 บ้านซำงู ตำบลกุดเรือ อำเภอทุ่งศรีอุดม โดยมี นายอาทิตย์ บุษบา นายอำเภอทุ่งศรีอุดม นายถาวร แสนเพ็ง พัฒนาการอำเภอทุ่งศรีอุดม เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ผู้นำชุมชน ตลอดจนทีมปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทีมพี่เลี้ยงในพื้นที่ ร่วมต้อนรับให้ข้อมูลและสนับสนุนการดำเนินงานในครั้งนี้
สำหรับ นางสาวประคองใจ นั้น อาศัยอยู่กับ สามี บุตรหญิงและบุตรชาย พบปัญหาในมิติด้านรายได้ เนื่องจากปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพประจำ ต้องดูแลบุตร 2 คน แต่นางสาวประครองใจ ระดาบุตร มีทักษะด้านการสานเปล และถักไม้กวาดทางมะพร้าว อีกทั้งสามี มีทักษะด้านอาชีพช่างเชื่อม ช่องซ่อมรถจักรยานยนต์ และงานก่อสร้าง จึงเป็นครัวเรือนที่สามารถพัฒนาได้ และพร้อมที่จะรับความช่วยเหลือ มุ่งมั่นตั้งใจที่จะประกอบอาชีพเสริม
ต่อมาในเวลา 14.40 น. คณะฯ ได้เดินทางต่อไปยังครัวเรือน นายณรงค์ วงศาคำ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 8 ตำบลโคกสะอาด อำเภอน้ำขุ่น ประกอบอาชีพช่างก่อสร้าง รับจ้างทั่วไป รายได้ไม่แน่นอน ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่กับบุตรชายอายุ 20 ปี ที่พิการตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ต้องใช้แพมเพิสทุกวัน ค่าใช้จ่ายสูง รายได้จากการทำงานไม่พอกับค่าใช้จ่าย อีกทั้งที่อยู่อาศัยไม่มีความคงทนถาวร และที่ดินที่อาศัยอยู่ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของตนเอง ไม่มีที่ดินทำกิน จึงตกเกณฑ์มิติด้านความเป็นอยู่ และมิติด้านรายได้ ถือเป็นครัวเรือนที่ต้องได้รับการสงเคราะห์
จากนั้น เวลา 15.30 น. คณะฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมครัวเรือน นายจอม ตะถา บ้านห้วยยาง หมู่ที่ 4 ตำบลโคกสะอาด อำเภอน้ำขุ่น ซึ่งเจ้าของครัวเรือนเป็นผู้สูงอายุ อีกทั้งภรรยามีอาการป่วยทางจิต ทั้งคู่จึงไม่สามารถประกอบอาชีพประจำได้ ต้องให้ลูกและหลานส่งเงินมาให้ แต่ไม่มีความแน่นอน จัดอยู่ในการตกเกณฑ์มิติด้านรายได้ โดยมี นายจักรพงศ์ พันธุ์เพ็ง นายอำเภอน้ำขุ่น นายไทย สีสิทธิ์ พัฒนาการอำเภอน้ำขุ่น หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน อสม. และทีมพี่เลี้ยงในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ และสนับสนุนการดำเนินงาน
โอกาสนี้ นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และนางศลิษา ภิรมย์รัตน์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบเงินจำนวน 3,000 บาท รวมถึงมอบถุงยังชีพและสิ่งของอุปโภคบริโภคเพื่อบรรเทาปัญหา อาทิ ผ้าห่ม ข้าวสาร ไข่ไก่ ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ให้แก่ครัวเรือนเป้าหมายทั้ง 3 ครัวเรือน
พร้อมนี้ ได้มอบแนวทางการดำเนินงานและกล่าวให้กำลังใจกับทีมปฏิบัติการฯ และทีมพี่เลี้ยงในระดับพื้นที่ โดยให้เล็งเห็นว่าการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ถือเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยนั้น ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับประชาชนชาวไทย จึงได้ถือโอกาสมาให้กำลังใจทีมปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในระดับพื้นที่และทีมพี่เลี้ยงในชุมชน ตลอดจนเยี่ยมครัวเรือนยากจนเป้าหมาย
ซึ่งทางจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงระดับจังหวัด (ศจพ.จ.) ได้ร่วมกับศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงระดับอำเภอ (ศจพ.อ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แต่งตั้งทีมพี่เลี้ยง ทีมปฏิบัติการระดับตำบล และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในหมู่บ้าน มาร่วมกันกำหนดแผนครัวเรือนให้กับครัวเรือนเป้าหมาย เพื่อที่จะได้ทราบว่าครัวเรือนนั้นๆ มีปัญหาความต้องการอะไร และตกเกณฑ์ในมิติใดบ้าง แล้วนำเมนูความช่วยเหลือครัวเรือนที่เกิดจากการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานราชการในจังหวัดอุบลราชธานี มาช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้ได้ตรงกับปัญหาความต้องการของครัวเรือนเป้าหมาย และเมนูความช่วยเหลือจากหน่วยงานในระดับจังหวัดให้ครบทั้ง 25 อำเภอ ต่อไป
อุบลราชธานี เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี : งานประชาสัมพันธ์ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี.. ภาพข่าว/รายงาน