วันออทิสติกโลก เน้นดึงพลังครอบครัวร่วมดูแล ยอมรับ ทุ่มเท และสู้ไปด้วยกันกับเด็กออทิสติก

วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้เป็นวันออทิสติกโลก ในปีนี้เน้นการรณรงค์ส่งเสริมพลังครอบครัวในการดูแล  ยอมรับ ทุ่มเท และสู้ไปด้วยกันกับเด็กออทิสติก  พร้อมย้ำหมั่นสังเกตสัญญาณเตือน “ไม่สบตา ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว ไม่ชอบเปลี่ยนแปลง” หากพบให้รีบพาเข้ารับการตรวจวินิจฉัย เพราะการบำบัดฟื้นฟูในช่วงเด็กอายุ 2 – 5 ปีแรก จะส่งผลต่อการพัฒนาสมอง ทำให้เด็กสามารถมีชีวิตปกติแบบคนทั่วไปได้ดี

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้เป็นวันออทิสติกโลก ในปีนี้ได้เน้นการรณรงค์ส่งเสริมพลังครอบครัวในการดูแลเด็กออทิสติก ให้เปิดใจยอมรับโดยไม่มองว่าเด็กเป็นส่วนเกินของครอบครัวและสังคม ขณะเดียวกันก็พร้อมทุ่มเทและสู้ไปด้วยกัน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อโอกาสในการรักษา  ย้ำให้พ่อแม่ผู้ปกครอง สังเกตบุตรหลาน หากพบสัญญาณเตือน “ไม่สบตา ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว ไม่ชอบเปลี่ยนแปลง” ให้รีบพาเข้ารับการตรวจวินิจฉัย เพราะการได้รับการบำบัดฟื้นฟูในช่วงเด็กอายุ 2 – 5 ปีแรก จะให้ผลดีต่อการพัฒนาสมอง ทำให้เด็กสามารถมีชีวิตปกติแบบคนทั่วไปได้ดี  นอกจากนี้ทุกภาคส่วนควรร่วมกันเปิดพื้นที่บวก ให้โอกาสบุคคลออทิสติก ได้มีที่ยืนในสังคมให้มากขึ้น เพื่อทำให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้ตามศักยภาพอย่างมีความสุข  ทั้งนี้จากการสำรวจของสมาคมออทิสติกแห่งชาติ (The National Autistic Society) ประเทศอังกฤษ พบว่า มีผู้ป่วยออทิสติกวัยผู้ใหญ่เพียงร้อยละ16 ที่สามารถทำงานเลี้ยงชีพและมีรายได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยออทิสติกถูกจัดว่าเป็นแรงงานไม่มีความชำนาญ จึงได้รับค่าตอบแทนในระดับต่ำ มีอัตราการเปลี่ยนงานบ่อยและมีความยากลำบากในการปรับตัวกับสถานที่และเพื่อนร่วมงาน สำหรับประเทศไทยพบบุคคลออทิสติกไม่ถึง 100 คน  ที่มีงานทำ มีรายได้  โดยในส่วนของกรมสุขภาพจิตได้มอบหมายให้โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในสังกัดที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านออทิสซึม ดำเนินการพัฒนาความพร้อมของบุคคลออทิสติกในการเข้าสู่โลกของการทำงานในชีวิตจริง ส่งเสริมการใช้ความสามารถ การมีงาน   มีรายได้และพึ่งพาตนเอง เพื่อลดภาระและเพิ่มคุณภาพชีวิตของบุคคลออทิสติกและครอบครัว รวมทั้งดำเนินการเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการบำบัดรักษาในเด็กออทิสติก อายุ 2 – 5 ปี ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมาสามารถเพิ่ม จากร้อยละ 8.51 ในปี 2559 เป็นร้อยละ 56.85 ในปี 2561