เมื่อวันที่ 25 มี.ค 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพังงา และนายฑีฆาวัฒน์ ปัทมาคม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ริป เคิร์ล(ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานเปิดฤดูกาลโต้คลื่น SURF FESTIVAL (FIRST WAVE OF KHAOLAK SURF TOWN) ต่อสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์เปิดฤดูกาลกิจกรรมกระดานโต้คลื่นของพังงาเป็นจังหวัดแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ กระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว สร้างการรับรู้ และสร้างกระแสให้นักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดพังงามากขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้จากกิจกรรมกีฬาเชิงการท่องเที่ยว รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดพังงาให้เป็นจุดหมาย หรือ Destination ในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว SURF TOWN แห่งแรกของประเทศไทย
นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทยและทั่วโลกเป็นอย่างมาก นโยบายของรัฐบาลในการเปิดการเดินทางระหว่างประเทศทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มมีการเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยและจังหวัดพังงาเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าปัจจุบันการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงายังไม่ฟื้นตัวเท่ากับช่วงเวลาปกติ แต่จังหวัดพังงาก็ยังสามารถปรับตัวนำกีฬาโต้คลื่นซึ่งเป็นกีฬาใหม่ที่สร้างกระแสการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งกีฬาโต้คลื่นยังเป็นกีฬาที่สามารถเล่นได้ในช่วงฤดูฝน จึงเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวและสร้างการรับรู้และสร้างกระแสให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดพังงามากขึ้น
นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพังงา กล่าวว่า ททท.สำนักงานพังงา ร่วมกับชมรมกีฬากระดานโต้คลื่นจังหวัดพังงาและแบรนด์ RIP CURL แบรนด์โต้คลื่นชื่อดังระดับโลก พร้อมจับมือร่วมกับทุกภาคส่วน เตรียมพร้อมต้อนรับเปิด Surf Season ของปีนี้อย่างเป็นทางการเตรียมปลดปล่อยคว้าประสบการณ์ใหม่และสนุกสุดเหวี่ยงไปด้วยกัน ในงานเปิดฤดูกาลโต้คลื่น SURF FESTIVAL (FIRST WAVE OF KHAOLAK SURF TOWN) ระหว่างวันที่ 29 – 30 เมษายนถึง 1 พฤษภาคม 2565 ณ บริเวณหาดปะการัง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรื่องราว เปิดโลกทัศน์และมุมมองใหม่กับการออกเดินทางไปสู่วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของการโต้คลื่นอย่างแท้จริง อาทิ Surf Culture, Surf Lesson, Surfer Talk, Surf Photography, Surf Sustainability ,Surf Art & Gallery, Surf Wellness, Surf and Music Festival คาดว่าจะมีนักโต้คลื่นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าร่วมกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 2,000 สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ขอบคุณภาพข่าว ส.ปชส.จ.พังงา
นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป /โกอู๋@ผู้สื่อข่าวอาวุโสจังหวัดพังงา