วันที่ 24 มีนาคม 2565 นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มอบหมายให้ นายสรสาสน์ สีเพ็ง ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เขตตรวจราชการที่ 14 ลงพื้นที่ติดตามสนับสนุนการขับเคลื่อนงานสำคัญตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และกรมการพัฒนาชุมชน ในพื้นที่อำเภอสว่างวีระวงศ์ และอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีนายพิสดาร ประดา พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี นางสาววิจิตร หลงชิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน นางกนกอร โพธิ์สิงห์ ผู้อำนวยการส่งเสริมการพัฒนาชุมชน นางสาวเพลินพิศ สาสาย นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานประสานและสนับสนุนการบริหารงานพัฒนาชุมชน ร่วมให้การต้อนรับและสนับสนุนการดำเนินงานฯ หลังจากที่สายฝนได้โปรยลงมาอย่างหนัก
โดยในเวลา 13.00 น. ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน และคณะฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมการดำเนินงานศูนย์เรียนรู้ทุนชุมชนตำบลท่าช้าง (ศูนย์สารภี) ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ ซึ่งจัดตั้งเมื่อปี 2518 โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับบริจาคที่ดินทั้งหมด 50 ไร่ 2 งาน 57 ตารางวา ต่อมาในปี พ.ศ. 2519 ได้จัดสรรงบประมาณสร้างอาคารฝึกอบรมและมีเจ้าหน้าที่ดูแล ตั้งอยู่ในเขตบ้านใหม่สารภี หมู่ที่ 3 ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี และเมื่อปี 2556 สำนักพัฒนาทุนและองค์กรการเงินชุมชน ได้เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี และสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอสว่างวีระวงศ์ และได้มอบหมายให้จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่ แผนผังการใช้ศูนย์สารภี และจัดตั้งคณะกรรมการบริหารและระเบียบข้อบังคับของศูนย์ฯ เพื่อใช้ประโยชน์ในการเป็นศูนย์เรียนรู้ทุนชุมชน
ตลอดจนสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน ซึ่งในปี พ.ศ. 2560 กรมการพัฒนาชุมชน มีแนวทางในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทุนชุมชน ให้เป็นต้นแบบบโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์พัฒนาศูนย์ฯ ต่อมาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กรมการพัฒนาชุมชนได้มีนโยบายให้ศูนย์ฯ ดำเนินการปรับพื้นที่เป็นศูนย์เรียนรู้โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” แปลงศูนย์เรียนรู้ระดับตำบล (CLM) และมีกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อให้เป็นต้นแบบแก่ชุมชนอื่น ก่อนขยายผลไปยังระดับภูมิภาคและระดับประเทศต่อไป
จากนั้น เวลา 14.00 น. ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน และคณะฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมร้านบ้านสวนต้นเทียนไหมไทย ตำบลบุ่งมะแลง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งก่อตั้งมาเมื่อปี 2545 โดยมีคุณอุบลกาญจน์ โหตระไวศยะ เป็นประธานฯ ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 100 คน ได้รับการคัดสรรเป็นสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว เป็นจุดจำหน่ายและเรียนรู้วิธีการทอผ้าในรูปแบบลวดลายต่างๆ โดยเฉพาะการผ้าทอพื้นเมืองอุบลราชธานี ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือ ผ้ากาบบัว ซิ่นทิวมุกจกดาว เป็นผ้าที่มีแหล่งกำเนิดในเมืองอุบลราชธานี และยังเป็นกลุ่มทอผ้าที่สำคัญของจังหวัดฯ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้วย
ถัดมาในเวลา 15.00 น. ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน และคณะฯ ได้ลงพื้นที่อำเภอพิบูลมังสาหาร ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่ รูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” แปลงครัวเรือนต้นแบบ นางอุดม ชอบเสียง บ้านดอนหวาย หมู่ที่ 5 ตำบลระเว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี นายสมมาฏฐ์ โพธิ นายอำเภอพิบูลมังสาหาร นายปรีชา มีราช พัฒนาการอำเภอพิบูลมังสาหาร นายวิระสันต์ สมโคตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลระเว เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ สำนักงานเกษตรอำเภอ และสำนักงาน กศน. อำเภอพิบูลมังสาหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) ร่วมให้การต้อนรับและสนับสนุนการดำเนินงานฯ
สำหรับแปลงครัวเรือนต้นแบบ นางอุดม ชอบเสียง นั้น เข้าร่วมโครงการ ฯ จำนวน 1 ไร่ สัดส่วนที่เลือก 1:1 ประเภทดินร่วนปนทราย ปริมาณดินที่ขุดได้ 1,552 ลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำที่สามารถกักเก็บได้ 895.8 ลูกบาศก์เมตร ก่อนการดำเนินการขุดปรับพื้นที่ แปลงนี้มีพื้นที่ 3 ไร่ ทำนาข้าว มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 10,000 บาทต่อปี ส่วนหลังดำเนินการขุดปรับพื้นที่ มีผลผลิตประกอบด้วย กล้วย ข่า ตะไคร้ พริก บวบ ซึ่งมีจำหน่ายตลอด และมีการเลี้ยงปลาตะเพียน ปลานิล ปลาดุก จำหน่าย ทั้งในตลาดชุมชน โดยมีพ่อค้ามารับถึงที่ นอกจากนั้น ยังมีการปลูกไม้ป่า 5 ระดับ
อาทิ สักทอง ยางนา พะยูง ประดู่ และพืชผักสวนครัวที่สร้างรายได้หลักภายหลังการขุดปรับพื้นที่แล้วเสร็จ ได้แก่ บวบ พริก ตะไคร้ ข่า สะระแหน่ ผักชี แตงโม แตงไทย กล้วย สถานที่จำหน่ายภายในตลาดชุมชน ภายในระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยมากกว่า 10,000 บาท ต่อเดือน ส่วนแนวทางการต่อยอดของแปลงในอนาคตจะมีการเลี้ยงปลาดุก ปลานิล ปลาตะเพียน การเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ เลี้ยงกบ และเลี้ยงหมูป่า สามารถนำมาเป็นอาหารบริโภคภายในครัวเรือนและแบ่งปันเพื่อนบ้านพร้อมจำหน่ายสร้างรายได้อีกทางหนึ่งด้วย
ปิดท้ายในเวลา 16.00 น. ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน และคณะฯ ได้เยี่ยมให้กำลังใจครัวเรือนเป้าหมายภายใต้การขับเคลื่อนการ ดำเนินงานขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ณ บ้านดอนหวาย หมู่ที่ 5 ตำบลระเว อำเภอพิบูลมังสาหาร จำนวน 2 ครัวเรือน ประกอบด้วย ครัวเรือน นายวิมุฒิ คำสอน และนางสายฝน ชาตรี ซึ่งเป็นครัวเรือนเพิ่มเติมที่ตกเกณฑ์ในมิติด้านความเป็นอยู่ และด้านรายได้ แยกเป็น นายวิมุติ คำสอน มีความขยันมีทักษะเรื่องการปลูกพืชผักสวนครัว ซึ่งทางทีมปฏิบัติการระดับตำบล ได้ส่งเสริมให้มีการปลูกผักสวนครัวไว้บริโภคและจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ โดยมีทีมพี่เลี้ยงในระดับพื้นที่ ได้ประสานการขอใช้พื้นที่ภายในหมู่บ้านให้ครัวเรือนได้ทำการปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร
พร้อมนี้ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบเมล็ดพันธุ์ผักให้ครัวเรือนเป้าหมายและปลูกผักร่วมกับพัฒนาการจังหวัด นายอำเภอ เเละนายกองค์การบริหารส่วนตำบลระเว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ครัวเรือนเป้าหมายด้วย ส่วนนางสายฝน ชาตรี ซึ่งตกเกณฑ์ในมิติด้านความเป็นอยู่ และด้านรายได้เช่นเดียวกันนั้น มีทักษะเรื่องการทำลายผ้า การทอผ้า เเต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน จึงได้มอบผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ นางสายฝน ชาตรี นำไปเป็นต้นแบบในการทอผ้า เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้เกิดความมั่นคงในการประกอบอาชีพต่อไป
พร้อมนี้ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี นายอำเภอพิบูลมังสาหาร เเละนายกองค์การบริหารส่วนตำบลระเว ยังได้มอบถุงยังชีพให้แก่ครัวเรือนเป้าหมายทั้ง 2 ครัวเรือน ก่อนให้คำแนะนำในวางแผนในการบูรณาการร่วมกับภาคีการทำงานในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนดำเนินงานขจัดความยากจนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามนโยบายของรัฐบาลให้ประสบผลสำเร็จอีกด้วย
อุบลราชธานี เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี : งานประชาสัมพันธ์ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี.. ภาพข่าว/รายงาน