43 ปี สศก. ก้าวสู่ภาคเกษตรมูลค่าสูง ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ

วันที่ 24 มีนาคม 2565 นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในงานแถลงข่าววันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 43 ปี ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) ว่า เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ทุกภาคส่วนต้องเฝ้าระวังสถานการณ์กันอย่างเข้มข้น การจัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนาในปีนี้ สศก. จึงต้องดำเนินการตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด อย่างเคร่งครัดโดยได้ลดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น คงไว้เพียงกิจกรรมที่ดำเนินการตามประเพณี คือ พิธีการทางศาสนา พิธีมอบทุนการศึกษามูลนิธิ ดร.สมนึก ศรีปลั่ง และพิธีมอบเข็มเชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคุณข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการดีเด่น รวมถึงการแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ในครั้งนี้

เป็นที่ทราบกันดีว่า ปี 2564 เป็นอีกปีหนึ่งที่ทั่วโลกและประเทศไทยยังต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงยืดเยื้อ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมภาคบริการ และภาคเกษตร ต้องเร่งปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนผ่านจากชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)ไปสู่ชีวิตวิถีถัดไป (Next Normal) โดย สศก. ได้ดำเนินการขับเคลื่อนงานที่สำคัญตามยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายของรัฐบาล ซึ่งสอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พร้อมบูรณาการกับทุกหน่วยงานในการผลักดัน  5 ยุทธศาสตร์หลักของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) ประกอบด้วย ตลาดนำการผลิต เทคโนโลยีเกษตร 4.0 แนวทาง 3’S (Safety-Security-Sustainability) บริหารเชิงรุกแบบบูรณาการโมเดล  “เกษตร-พาณิชย์ทันสมัย” และเกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวทางศาสตร์พระราชา ตลอดจนขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model: BCG Model) ด้านการเกษตร ที่มีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

สำหรับปี 2565 สศก. ในฐานะเนวิเกเตอร์ (Navigator) ด้านเศรษฐกิจการเกษตร มีความพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจเพื่อผลักดันให้ภาคเกษตรเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ และพร้อมจะร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรในทุกมิติ ทั้งด้านการพัฒนา Big Data สารสนเทศด้านการเกษตร งานวิจัยที่มีความทันสมัย และแผนพัฒนาการเกษตรในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายและการวางแผนที่มีประสิทธิภาพ มีการดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนติดตามและประเมินผลโครงการสำคัญ เพื่อการทบทวนและปรับปรุงการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น

“ผลสำเร็จจากการดำเนินงานของ สศก. จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนซึ่งในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา สศก. ในปีนี้ ขอเป็นตัวแทนของคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของ สศก. เพื่อขอบคุณเกษตรกร สถาบันเกษตรกร หน่วยงานภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา รวมทั้งสื่อมวลชน ที่ให้ความร่วมมือด้วยดีตลอดมา และแน่นอนว่า สศก.มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจ เพื่อให้ภาคเกษตรไทยก้าวสู่ภาคเกษตรมูลค่าสูง ฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความมั่นคงในอาชีพให้กับเกษตรกรไทย” เลขาธิการ สศก. กล่าว