สาธารณสุข 8 จังหวัดภาคเหนือ จัดกิจกรรมรณรงค์ การปฏิบัติตนเพื่อลดผลกระทบจากฝุ่นละออง

สำนักงานสาธารณสุข 8 จังหวัดภาคเหนือ จัดกิจกรรมรณรงค์ การปฏิบัติตนเพื่อลดผลกระทบจากฝุ่นละออง ส่ง อสม.เคาะประตูสู้ควันไฟ ส่งทีมหมอครอบครัวออกเยี่ยม 4 กลุ่มเสี่ยง พร้อมให้โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงเตรียมความพร้อมเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย และร่วมกับท้องถิ่นจัดเตรียมห้องสะอาด รองรับกลุ่มเสี่ยง

นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยสุขภาพประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากปัญหาฝุ่นละอองในภาคเหนือขณะนี้ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายแก้ไขปัญหา  โดยได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงใน 8 จังหวัดภาคเหนือดำเนินการตามข้อสั่งการ ดังนี้ 1.เฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองจากกรมควบคุมมลพิษ 2.แจ้งเตือนประชาชนสามารถใส่ หน้ากากอนามัยและจะต้องสวมใส่อย่างถูกวิธี พร้อมเยี่ยมบ้านกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่มโรค  3.ประสานให้ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดหาหน้ากากอนามัยให้กับประชาชน 4.ให้โรงพยาบาลเตรียมความพร้อมเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย และร่วมกับท้องถิ่นจัดเตรียมห้องสะอาด ( Clean room ) รวมทั้งขอให้บุคลากรทางการแพทย์ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ประชาชนในการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก

ทั้งนี้ จากการติดตามการดำเนินการตามข้อสั่งการ พบว่า ทุกจังหวัดได้มีการดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เช่น ที่จังหวัดเชียงใหม่  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลประจำอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้ร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่น ภาคเอกชน จิตอาสา จัดกิจกรรมโครงการ “อสม.เคาะประตูสู้ควันไฟ เพื่อลมหายใจของทุกคน” ให้ความรู้แก่ประชาชน และกลุ่มเสี่ยงเรื่องการปฏิบัติตัวในภาวะหมอกควัน ขอความร่วมมือประชาชนช่วยแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า หยุดการเผาป่าและการเผาในที่โล่ง ทีมหมอครอบครัวออกเยี่ยม 4 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงมีครรภ์ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว แจกหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กแก่กลุ่มเสี่ยงแล้วกว่า 60,000ชิ้น  รวมทั้งการนำรถบรรทุกน้ำฉีดพ่นละอองฝอยในพื้นที่ เพื่อลดฝุ่นละออง เพิ่มความชุ่มชื้นในบรรยากาศอีกด้วย

ส่วนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากหมอกควัน ได้ดำเนินการเฝ้าระวังติดตามค่า PM 2.5 เฝ้าระวังรายงานผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค ทุกวัน รวมทั้งประชาสัมพันธ์การป้องกันตนเอง การใช้หน้ากาก แก่ประชาชนในวงกว้างผ่านสื่อต่างๆ และโดยบุคคลตัวอย่าง เช่น จนท.รพ./รพ.สต. หัวหน้าส่วนราชการ  สื่อสารความเสี่ยงผ่านเครือข่าย อสม. ผู้นำชุมชน  จัดเตรียมห้องสะอาดรองรับ หากค่าฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ  ส่งทีมหมอครอบครัว ออกไปดูแลผู้ป่วยหอบหืด/โรคถุงลมโป่งพอง ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง จัดหาและสนับสนุนหน้ากากอนามัย เพื่อแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 6 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยถุงลมโป่งพอง หอบหืด เบาหวาน หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ทำงานที่โล่งแจ้ง

“ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้น แต่อย่าตระหนกจนส่งกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทางราชการ โดยติดตามสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง หากอยู่ในพื้นที่สีเหลือง สีส้ม สีแดง ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง กลุ่มเสี่ยงควรพักผ่อนอยู่ในบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ไอ ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน”นายแพทย์ธงชัย กล่าว