“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 19 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 127,068,984 โดส และทั่วโลกแล้ว 11,103 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง

“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 19 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 127,068,984 โดส และทั่วโลกแล้ว 11,103 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 1,020.9 ล้านโดส

➡️(19 มีนาคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 11,103 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 19.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 558 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 217 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 1,020.9 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 369.7 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 19 มีนาคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 127,068,984 โดส

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 11,103 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 19 มีนาคม 2565

จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 127,068,984 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น

-เข็มแรก 54,777,644 โดส (82.8% ของประชากร)

-เข็มสอง 50,084,753 โดส (75.7% ของประชากร)

-เข็มสาม 22,206,587 โดส (33.6% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 19 มี.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 127,068,984 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 269,172 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 172,283 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย

วัคซีน Sinovac

– เข็มที่ 1 22,912,712 โดส

– เข็มที่ 2 3,600,440 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca

– เข็มที่ 1 13,948,584 โดส

– เข็มที่ 2 28,518,453 โดส

– เข็มที่ 3 5,262,406 โดส

วัคซีน Sinopharm

– เข็มที่ 1 7,556,899โดส

– เข็มที่ 2 7,249,408 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer

– เข็มที่ 1 9,594,316 โดส

– เข็มที่ 2 9,836,941 โดส

– เข็มที่ 3 13,478,018 โดส

วัคซีน Moderna

– เข็มที่ 1 765,133 โดส

– เข็มที่ 2 879,511 โดส

– เข็มที่ 3 3,466,163 โดส

4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 1,020,914,499 โดส ได้แก่

1. อินโดนีเซีย จำนวน 369,729,651 โดส (70.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm

2. เวียดนาม จำนวน 201,079,635 โดส (81.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm

3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 145,729,130 โดส (63%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca

4. ไทย จำนวน 127,068,984 โดส (82.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm

5. มาเลเซีย จำนวน 68,418,688 โดส (83.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac

6. พม่า จำนวน 46,697,342 โดส (46.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

7. กัมพูชา จำนวน 37,548,761 โดส (87.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac

8. สิงคโปร์ จำนวน 13,721,340 โดส (93%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac

9. ลาว จำนวน 9,859,123 โดส (74.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca

10. บรูไน จำนวน 1,061,845 โดส (95%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม

5. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.69%

2. ยุโรป 9.99%

3. อเมริกาเหนือ 8.51%

4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.2%

5. แอฟริกา 3.98%

6. โอเชียเนีย 0.62%

6 ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

1. จีน จำนวน 3,218.72 ล้านโดส (227.6% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)

2. อินเดีย จำนวน 1,810.81 ล้านโดส (131.4%)

3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 558.17 ล้านโดส (166.5%)

4. บราซิล จำนวน 406.69 ล้านโดส (192.1%)

5. อินโดนีเซีย จำนวน 369.73ล้านโดส (134%)

7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

1. คิวบา (310.6%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)

2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (262.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)

3. ชิลี (257.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)

4. กาตาร์ (243.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)

5. มัลดีฟส์ (241.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)

6. บรูไน (240.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)

7. ฝรั่งเศส (236.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna, J&J และ AstraZeneca/Oxford)

8. เกาหลีใต้ (235.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)

9. ภูฏาน (233.3%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm Pfizer/BioNTech AstraZeneca/Oxford และ Sputnik V)

10. สิงคโปร์ (233.0%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)

11. บาห์เรน (233%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)