กรมควบคุมโรค ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่แก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ พร้อมแนะวิธีป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากหมอกควัน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่แก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ พร้อมเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ควรใส่หน้ากากที่มีประสิทธิภาพป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กทุกครั้งขณะอยู่กลางแจ้ง แนะนำวิธีการป้องกันตัวเองเบื้องต้นให้ปลอดภัยจากหมอกควัน และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 27 มีนาคม 2562 นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้สภาพอากาศในช่วงนี้ร้อนและแห้งแล้งมาก โดยเฉพาะในภาคเหนือซึ่งมีภูมิประเทศเป็นป่าเขา  จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าได้ง่าย ประกอบกับมีการเผาขยะต่างๆ และเผาไร่สวนเพื่อเตรียมที่ดินไว้สำหรับทำการเกษตร ดังนั้นปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือจึงยังเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

ปัญหาหมอกควัน ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีความเสี่ยงป่วยจาก 4 กลุ่มโรค ได้แก่ 1.กลุ่มโรคหัวใจ และหลอดเลือด เช่น เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว 2.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล แสบจมูกและลำคอ 3.กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ เช่น อาการคันตามร่างกาย มีผื่นแดงตามร่างกาย และ 4.กลุ่มโรคตาอักเสบ เช่น อาการแสบหรือคันตา ตาแดง น้ำตาไหล และมองภาพไม่ค่อยชัด ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอด หอบหืด ภูมิแพ้ เป็นต้น  หากได้รับมลพิษจากหมอกควันเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไป

นายแพทย์ขจรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า กรมควบคุมโรค ได้สั่งการไปยังสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ให้ปฏิบัติตามมาตรการแก้ไขปัญหาหมอกควันที่มีประสิทธิภาพ โดยร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และได้ส่งทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ลงพื้นที่เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันทันที รวมถึงสนับสนุนวัสดุ เช่น หน้ากากอนามัย และยาแก้แพ้ต่างๆ เพื่อการดำเนินการของหน่วยงานในพื้นที่ และเพื่อป้องกันหมอกควันให้กับกลุ่มคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่หมอกควันสูง ตลอดจนกลุ่มที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น คนที่ต้องทำงานหนักกลางแจ้งเป็นระยะเวลานานๆ เช่น ตำรวจจราจรที่ทำงานกลางแจ้ง   วินมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่ขับขี่นานๆ คนงานที่ทำงานที่ก่อให้เกิดฝุ่น ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างต่อเนื่อง

สำหรับวิธีการป้องกันตัวเองเบื้องต้นให้ปลอดภัยจากหมอกควัน ได้แก่ 1.ให้อยู่ภายในบ้านเรือน หากไม่จำเป็น ไม่ควรออกนอกบ้าน 2.ปิดประตูหน้าต่างบ้าน ให้มิดชิด หมั่นทำความสะอาดบ้านโดยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดปริมาณสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็ก 3.หากต้องออกข้างนอก ควรสวมหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ 4.หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือการทำงานหนัก 5.ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ผู้หญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็ก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศที่มีฝุ่นละออง 6.ไม่เผาขยะ โดยเฉพาะขยะที่เป็นสารพิษ เช่น พลาสติก ยางรถยนต์ รวมถึงการเผาทางการเกษตรกรรม 7.ลดการใช้รถยนต์ หรือใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้มลพิษจากท่อไอเสียทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง ส่วนกรณีที่ขับขี่ยานพาหนะในช่วงที่มีหมอกควันมาก ทัศนะวิสัยไม่ดี ควรเปิดไฟหน้ารถ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ประชาชนสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422