กรมประมง เตรียมปิดอ่าวฝั่งอันดามัน 3 เดือน ในฤดูปลามีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน เริ่ม 1 เม.ย. 62 นี้

กรมประมงเตรียมประกาศปิดอ่าวฝั่งอันดามันประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2562 ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร โดยห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดทำการประมงในพื้นที่ดังกล่าว ในฤดูปลามีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน เพื่อคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ และสัตว์น้ำวัยอ่อน ทำให้สัตว์น้ำได้มีโอกาสแพร่ขยายพันธุ์ ตลอดจนเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลให้มีอยู่อย่างยั่งยืนอีกด้วย

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า สำหรับการประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวในวัยอ่อนฝั่งทะเลอันดามันนั้น กรมประมงได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2528 จนถึงปัจจุบัน ต่อเนื่องมาทุกปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 33 แล้ว โดยในปี 2562 นี้ กรมประมงยังคงใช้มาตรการจาก “ประกาศกำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง พ.ศ. 2561” เหมือนเช่นปีที่แล้ว เนื่องจากกรมประมงได้ทำการสำรวจผลการจับสัตว์น้ำในพื้นที่ดังกล่าวโดยเรือสำรวจประมง ซึ่งพบว่า มีปริมาณการจับสัตว์น้ำมากขึ้น จากช่วงก่อนมาตรการที่มีอัตราการจับสัตว์น้ำเพียง 243 กิโลกรัมต่อชั่วโมง เพิ่มขึ้นเป็น 368 และ 619 กิโลกรัมต่อชั่วโมงในช่วงก่อนสิ้นสุดมาตรการ และช่วงสิ้นสุดมาตรการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรการดังกล่าวมีส่วนช่วยในการรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์น้ำเศรษฐกิจของประเทศไทย เช่น ปลาทู ปลาลัง และกลุ่มสัตว์หน้าดิน เช่น ปลาเก๋า กุ้งแชบ๊วย เป็นต้น

สำหรับประกาศกรมประมงฉบับดังกล่าวได้กำหนดเครื่องมือ วิธีการทำประมงและเงื่อนไขที่สามารถทำการประมงได้ดังนี้

เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ ที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดความยาวไม่เกิน 14 เมตร และทำการประมงในเวลากลางคืนให้ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

  1. เครื่องมืออวนล้อมจับปลากะตักให้ทำการประมงได้เฉพาะในเวลากลางวัน และให้ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง
  2. เครื่องมืออวนติดตาปลาที่มีขนาดช่องตาอวนตั้งแต่ 4.7 เซนติเมตรขึ้นไป และมีความยาวอวนไม่เกิน 2,500 เมตร ต่อเรือประมง 1 ลำ ให้ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่งได้ ส่วนเครื่องมืออวนติดตาปลาที่มีช่องตาอวนตั้งแต่ 4.7 เซนติเมตรขึ้นไป และมีความยาวอวนเกิน 2,500 เมตร ต่อเรือประมง 1 ลำ ให้ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง
  3. เครื่องมืออวนปู อวนลอยกุ้ง อวนหมึก
  4. เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกหมึก ที่ใช้ประกอบกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) ให้ทำการประมงนอกเขต ทะเลชายฝั่ง
  5. ลอบปูที่มีขนาดตาอวนโดยรอบตั้งแต่ 2.5 นิ้วขึ้นไป ให้ใช้ทำการประมงได้ไม่เกิน 300 ลูก ต่อเรือประมง 1 ลำ ให้ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่งได้ ส่วนลอบปูที่มีขนาดช่องตาเฉพาะท้องลอบตั้งแต่ 2.5 นิ้วขึ้นไป ให้ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง
  6.  ลอบหมึกทุกชนิด
  7. ซั้งทุกชนิดที่ใช้ประกอบทำการประมงพื้นบ้านในเขตทะเลชายฝั่ง
  8. คราดหอยที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดความยาวไม่เกิน 18 เมตร มีความยาวของปากคราดไม่เกิน 3.5 เมตร ช่องซี่คราดไม่น้อยกว่า 1.2 เซนติเมตร และจำนวนของเครื่องมือคราดหอยต้องไม่เกิน  3 อัน (หน่วย) ต่อเรือกล 1 ลำ ให้ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง รูปแบบ และพื้นที่ทำการประมงของเครื่องมือประมงคราดหอยที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
  1. อวนรุนเคย โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ออกตามความในมาตรา 68 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558
  1. จั่น ยอ แร้ว สวิง แห เบ็ด สับปะนก ขอ ลอบ ฉมวก แผงยกปูจักจั่น
  2. เครื่องมืออื่นใดที่ไม่ใช้ประกอบเรือกลขณะทำการประมง
  3. การใช้เรือประมงที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส หรือการใช้เรือที่ใช้เครื่องยนต์มีกำลังแรงม้าไม่ถึง 280 แรงม้า สามารถใช้ทำการประมงได้ โดยการใช้เรือทั้งสองประเภทดังกล่าว จะต้องไม่ประกอบกับเครื่องมือทำการประมงตามประเภทที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดให้การใช้เรือประมงทุกขนาดประกอบเครื่องมือทำการประมงบางประเภทเป็นประมงพาณิชย์ พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 15ธันวาคม พ.ศ . 2560 หรือไม่ประกอบกับเครื่องมือทำการประมงที่กำหนดห้ามตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมง และพื้นที่ทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ทั้งนี้ การทำการประมงโดยใช้เครื่องมือตามข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 และข้อ 7 จะต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมง และพื้นที่ทำการประมง ที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 และเครื่องมือทำการประมงที่ใช้ทำการประมงต้องไม่เป็นเครื่องมือทำการประมง ที่ห้ามใช้ทำการประมง ตามมาตรา 67 มาตรา 69 หรือมาตรา 71 (1) แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558

ในส่วนของบทกำหนดโทษนั้น หากรายใดฝ่าฝืนต้องโทษตั้งแต่ 5,000 บาท – 30 ล้านบาท ตามขนาดของเรือประมง หรือ 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่จับได้ และจะถูกริบเครื่องมือทั้งหมด โดยการกำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดในพื้นที่ปิดอ่าวฝั่งอันดามันนั้น เกิดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมและป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย ที่อาจส่งผลต่อความสมดุลทางธรรมชาติและรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำและระบบนิเวศไว้อย่างยั่งยืน

โดยในปีนี้ กรมประมงได้กำหนดจัดพิธีประกาศปิดพื้นที่ทางทะเลฝั่งอันดามันในวันที่ 28 มีนาคม 2562 ณ ท่าเทียบเรือ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเขต 3 (กระบี่) ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปและชาวประมงในพื้นที่ทุกท่านไปร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีดังกล่าว  และขอให้พี่น้องชาวประมงทุกท่านให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อที่เราจะได้มีทรัพยากรสัตว์น้ำไว้ใช้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต   อธิบดีกรมประมง กล่าวทิ้งท้าย