กรมการขนส่งทางบก เดินหน้า!!! สร้างการรับรู้มาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำรถยนต์และ รถขนส่งตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ เพื่อร่วมใจแก้ไขปัญหา PM2.5 แนะ!! เจ้าของรถและผู้ประกอบการขนส่งตรวจเช็กสภาพรถอยู่เสมอ หากต้องการเช็กค่าควันดำตามเกณฑ์ใหม่ นำรถเข้ารับบริการได้ที่สำนักงานขนส่ง หรือ สถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ทั่วประเทศ ไม่มีค่าใช้จ่าย!!!
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหา PM 2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะในปัจจุบันกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ออกประกาศกำหนดมาตรฐานค่าควันดำใหม่ที่มีความเข้มงวดขึ้นและกำหนดให้มีการปล่อยควันดำได้น้อยลง ซึ่งจะเริ่มใช้เกณฑ์ใหม่ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ในส่วนของกรมการขนส่งทางบกจึงต้องดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ให้สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำและวิธีการตรวจวัดที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด และเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้เจ้าของรถ ผู้ประกอบการขนส่ง ทราบเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำใหม่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีสาระสำคัญ
ดังนี้ กรณีการตรวจวัดค่าควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบวัดความทึบแสง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 จากเดิม ร้อยละ 45 และหากทำการตรวจวัดควันดำด้วยระบบกระดาษกรอง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 40 จากเดิม ร้อยละ 50 ดังนั้น ก่อนเกณฑ์ค่าควันดำใหม่จะมีผลตามกฎหมายกรมการขนส่งทางบกขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งเร่งตรวจเช็กสภาพรถของตนเองไม่ให้มีการปล่อยควันดำ ส่วนกรณีรถที่มีการปล่อยควันดำ ขอให้ดำเนินการแก้ไขและเพิ่มความเข้มงวดในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์และระบบการทำงานต่างๆ เพื่อลดการปล่อยควันดำที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ อันเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหา PM 2.5 ทั้งนี้ ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่ง ที่ต้องการตรวจสอบค่าควันดำรถของตนเองว่าอยู่ในเกณฑ์ใหม่ที่กำหนดหรือไม่ สามารถนำรถเข้ารับบริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 สำนักงานขนส่งจังหวัด สำนักงานขนส่งสาขา และสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ทั่วประเทศ
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวต่อไปว่านอกจากการปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถที่มีความเข้มงวดขึ้นตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะมีผลกับการตรวจวัดควันดำของสำนักงานขนส่ง และสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ทุกแห่งแล้วในส่วนการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM 2.5 จากภาคการขนส่งตามนโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เช่น การออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสาร ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเพิ่มความถี่ในการปฏิบัติงานออกตรวจวัดควันดำทั่วประเทศ โดยเฉพาะบนถนนสายหลักและสายรองที่เข้า-ออกกรุงเทพมหานคร
ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2565 จะเป็นไปตามเกณฑ์การตรวจควันดำใหม่เช่นกัน หากตรวจพบค่าควันดำเกินกำหนดจะลงโทษเปรียบเทียบปรับสถานหนักและสั่งห้ามใช้รถทันที ผู้ประกอบการขนส่งจึงต้องเพิ่มความเข้มงวดในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรถที่มีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐาน สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง หรือให้ช่างที่มีความชำนาญดำเนินการ หมั่นทำความสะอาด
หรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา หรือเร็วกว่าสำหรับรถที่ใช้งานหนัก
เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามที่ผู้ผลิตรถกำหนด ตรวจเช็กและปรับตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นละออง และมีแรงดันตามที่ผู้ผลิตกำหนด ปรับตั้งปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงและตั้งจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงให้ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด ตรวจเช็กและซ่อมเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ รวมถึงการปรับพฤติกรรมการขับขี่ที่อาจก่อให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา PM 2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะ