“รมว.วราวุธ” ชู TCAC หมุดหลักสำคัญ แก้ไขปัญหา Climate Change พร้อมย้ำ ทส. ต้องเป็นผู้ควบคุมตลาด Carbon Credit ของประเทศ

วันที่ 4 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยมี นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการ รมว.ทส. และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้บริหารที่ได้รับตำแหน่งใหม่ โดยขอให้ทำงานอย่างเต็มที่ ดูแลองค์กรและผู้ใต้บังคับบัญชา โดยเฉพาะการพิจารณาการแต่งตั้ง โยกย้าย ที่ต้องมีความเหมาะสมกับตำแหน่ง ตลอดจนบริหารจัดการงบประมาณให้มีความโปร่งใส เป็นไปตามเงื่อนไข และเงื่อนเวลาอย่างเคร่งครัด พร้อมกันนี้ ยังได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดเตรียมข้อมูลเพื่อการชี้แจงในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ ในช่วงเดือน พ.ค. 2565 อีกทั้ง ยังได้แนะนำให้มีการประชาสัมพันธ์โครงการสวนสัตว์เพื่อชุมชน หรือ “Mini Zoo” ให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งถือเป็นแหล่งเรียนรู้ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญ คือ เป็นการช่วยส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชน ตลอดจน แนะนำให้มีการนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ในการดำเนินงานของกระทรวง อีกด้วย

รมว.ทส. ยังได้เน้นย้ำความสำคัญของการดำเนินการภายใต้ผลการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 หรือ COP26 และแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ว่า การจัดประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย หรือ TCAC จะเป็นการจัดประชุมครั้งแรกของโลก และเป็นหมุดหลักที่สำคัญของการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย โดยสิ่งที่ได้หลังจบการประชุม จะนำไปเสนอต่อที่ประชุม COP27 ต่อไป ซึ่งจะช่วยตอกย้ำต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทย ในฐานะประเทศที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 1.8% แต่เป็นประเทศที่จะได้รับผลกระทบเป็นอันดับต้น ๆ ได้มีการตื่นตัวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

อีกทั้ง ยังจะเป็นเวทีในการกระตุ้นให้ภาคเอกชนหรือภาคการปลดปล่อย มีการดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น รวมถึงการช่วยกระตุ้นให้คนไทยตระหนักต่อความสำคัญของปัญหาดังกล่าว โดย รมว.ทส. ได้แนะให้ดึงพลังคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความตื่นตัวให้เกิดการทำงานร่วมกันต่อไปอีกด้วย ทั้งยังได้เร่งรัดให้ TGO หรือองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เร่งจัดทำหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายคาร์บอนเครดิตของประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ป่าชายเลน รวมถึงขอให้หัวหน้าส่วนราชการ เร่งดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้ในการยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่ด้วยทุกวิถีทาง เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบถึงผลการเบิกจ่ายงบประมาณของทุกหน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ รวมทั้งผลการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล อาทิ การขจัดความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและโมเดลเศรษฐกิจ BCG การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ 5 การจัดทำ Bangkok Goals on BCG ในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ การแก้ไขปัญหาขยะทะเลและการจัดการขยะ โดยใช้เศรษฐกิจหมุนเวียน และการประชุมคณะทำงานด้านมหาสมุทรและการประมง

รวมทั้ง การเตรียมความพร้อมของพื้นที่เพื่อเสนอขอรับการรับรองเป็นมรดกโลก ของแหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลกแล้ว และการเสนออุทยานธรณีโคราชและอุทยานธรณีขอนแก่น เพื่อประเมินให้เป็นอุทยานธรณีโลกของ UNESCO ในปี 2566 และ ปี 2567 ตามลำดับ ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการประชุมเครือข่ายอุทยานธรณีโลกภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 7 ช่วงเดือน ก.ย. 2565 และการเตรียมการเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ในปี 2566