พม.ลำปางจับมือตำรวจภูธรจังหวัดเร่งวางแผนแก้ไขปัญหาคนเร่ร่อนทั่วเมืองและมั่วสุมยามดึกเฝ้าระวังเข้มงวดทุกภาคส่วน

วันที่ 2 มีนาคม 2565 เวลา 13.30 น. นาย ณรงค์ฤทธิ์ นุปิง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดลำปาง พร้อมกำลังสายตรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปางลงพื้นที่ บ้านท้ายเขื่อนอำเภอเมืองลำปาง เป็นบ้านร้างจรัญ มีชายเร่ร่อนอยู่ 2 คน คนที่ 1 ชื่อพล มีภูมิลำเนา ตำบล น้ำใจ้ อำเภอแม่ทะ มีปัญหาครอบครัวไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้และได้สอบถามเพื่อเตรียมตัวไปทำงานเป็นลูกจ้างเลี้ยงลูกเป็ด จังหวัดนครสวรรค์ วันที่ 11 มีนาคม 2565 โดยเดินทางรถไฟ ส่วนอีกราย ชื่อ เอก เป็นภูมิลำเนาอำเภอเกาะคา ชอบเดินเร่ร่อนขออาหารขอเงินชาวบ้านไปวันๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้ว่ากล่าวตักเตือนและวางแผนนำส่งกลับบ้านในวันถัดไปในเวลาต่อมาได้ร่วมไปตรวจสอบกรณี คนเร่ร่อนเสียชีวิตที่อาคารสโมสรข้าราชการพร้อมทีมสหวิชาชีพทุกส่วนราชการ เทศบาลนครลำปางเทศกิจกรณีข่าวกลุ่มชายเร่ร่อน มั่วสุมภายในอาคารสโมสรข้าราชการจังหวัดเก่า (ข้างสวนสาธารณะเขลางค์ฯ) หน่วยงานได้รับเเจ้งจากประชาชนว่ามีชายเร่ร่อน อาศัยอยู่ในอาคารสโมสรจังหวัดเก่า (ข้างสวนสาธารณะเขลางค์) สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในสโมสรข้าราชการจังหวัดลำปางและเวลา ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เทศกิจ

จากการลงพื้นที่พบเป็นชายเป็นบุคคลในจังหวัดลำปางและบุคคล กลุ่มคนเร่ร่อนส่วนใหญ่มีปัญหาภายในครอบครัว และป่วยจิตเวช จึงออกมาเร่ร่อนใช้ชีวิตอิสระชอบดื่มเหล้าในพื้นที่สาธารณะในช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ จึงให้คำปรึกษา ตักเตือน และขอความร่วมมืองดการรวมกลุ่มมั่วสุม เร่ร่อนและแจ้งส่งกลับภูมิลำเนาแต่ยังหลบการจับกุมเจ้าหน้าที่ซึ่งมาเร่ร่อนที่สโมสรฯอึกเพื่อแก้ปัญหากลุ่มคนเร่ร่อน/คนขอทานในระยะยาวศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเทศบาลนครลำปาง และหน่วยงาน ประกอบด้วย เทศบาลนครลำปาง,สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง/สถานีตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง,เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกส่วนราชการ ได้ร่วมวางแผนการดำเนินการช่วยเหลือโดย

สรุปผลการหารือประเด็นสำคัญดังนี้

1.เทศบาลนครลำปางจะได้รวบรวมเอกสารสัญญาเช่าอาคารและขออนุญาตต่างๆเร่งประสานส่งหนังสือเจ้าของบริษัทโดยด่วนเข้ามาดำเนินแก้ไขอาคารสโมสรโดยทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งได้ประสานตำรวจภูธรอำเภอเมืองเร่งเฝ้าระวังอาคารสโมสร 24 ซม และติดตามลงพื้นที่เยี่ยมบ้านติดต่อญาติเพื่อกลับคืนสู่ครอบครัวในกรณีถ้าไม่ประสงค์กลับบ้านคืนสู่ครอบครัวได้จะได้วางแผนเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองช่วยเหลือและวางแผนจัดหางานอาชีพทำประสานครอบครัวและประสานส่งต่อเพื่อแก้ไขปัญหาคนเร่ร่อนคนขอทานหมุนเวียนในพื้นที่สาธารณะและเพื่อปลอดภัยต่อประชาชนต่อไป