“ยุติธรรม เผย สถานการณ์โควิด-19 กรมราชทัณฑ์ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง คุมสถานการณ์ไว้ได้ คาดหายป่วยหมด สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ และไม่มีผู้เสียชีวิตติดต่อกันเป็นวันที่ 22”
ในวันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.00 น. ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 8/2565 โดยมี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษก ศบค.ยธ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน วันนี้ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่ และทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นพ้นจากการระบาดแล้ว ส่งผลให้มีเรือนจำสีขาวเพิ่มขึ้นเป็น 124 แห่ง และเรือนจำสีแดงลดลงเหลือ 18 แห่ง โดยเรือนจำสีแดงส่วนหนึ่งสามารถลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) แล้วรวม 9 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดชุมพร เรือนจำอำเภอเกาะสมุย เรือนจำจังหวัดหนองคาย เรือนจำกลางขอนแก่น ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง เรือนจำอำเภอหลังสวน เรือนจำจังหวัดระนอง เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร และเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งคาดว่าจะทยอยพ้นจากการระบาดอย่างต่อเนื่องได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย เป็นการพบในห้องแยกกักโรค 16 ราย และพบในเรือนจำสีแดง 1 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 1,018 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 79.8% กลุ่มสีเหลือง 20% และกลุ่มสีแดง 0.2% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 86,331 ราย หรือ 96% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 89,859 ราย โดยไม่มีรายงานการเสียชีวิตติดต่อกันเป็นวันที่ 22 จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 190 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดในทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปางนั้น ณ ปัจจุบันนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดยังไม่มีผู้ต้องขังรายใดมีอาการหนักหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสีเขียวและกลุ่มสีเหลืองเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเมื่อพบผู้ป่วยรายแรก เจ้าหน้าที่ได้ทำการคัดกรองแบบเชิงรุก 100% โดยได้รับการสนับสนุนเครื่องเอ็กซเรย์พระราชทาน เพื่อใช้ในการตรวจคัดกรองกลุ่มผู้ต้องขัง อีกทั้งคัดแยกผู้ป่วยพร้อมให้การรักษาโดยเร็ว ทั้งนี้คาดว่าจะครบระยะสิ้นสุดการรักษาผู้ต้องขังที่ป่วยและหายป่วยทั้งหมดได้ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุม ศบค.ยธ. โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุมวันนี้ พบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโดยทั่วไปยังคงไม่น่ากังวล เนื่องจากมีการประสานความร่วมมือจากโรงพยาบาลแม่ข่ายและสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อตรวจคัดกรอง คัดแยก และรักษา พร้อมทั้งการสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์อย่างเป็นระบบและรวดเร็ว และพบว่าไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเป็นระยะเวลาติดต่อกันถึง 22 วันแล้ว พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้เรือนจำที่พบการระบาด เร่งจัดเตรียมและดำเนินการตามแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค หรือ แผน EXIT โดยเร็ว เพื่อให้เรือนจำสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติในการควบคุมและรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ต่อไป
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 พบมีผู้ติดเชื้อและอยู่ระหว่างการรักษาตัวเป็นจำนวน 30 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 23 ราย และเยาวชน จำนวน 7 ราย ด้านผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 40 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 16 แห่ง พบว่ามีการติดเชื้อ ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชน จำนวน 3,465 ราย หรือคิดเป็น 91.62% จากทั้งหมด 3,782 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีน จำนวน 3,985 ราย หรือคิดเป็น 92.57% จากทั้งหมด 4,305 ราย
*****************************************