วันที่ 29 มกราคม 2565 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริ วัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จเป็นองค์ประธานงานเสวนาวิชาการ “หนังสือแนวโน้ม และทิศทางผ้าไทยและเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทยเล่มที่ 2 (Thai Textiles Trendbook Autumm/Winter 2022-2023) ทรงบรรยายในหัวข้อ “การส่งเสริมการพัฒนา ภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล” โดยมีนายกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยาสารโว้ก ประเทศไทย (VOGUE THAILAND) และนายวัชระวิชญ์ อัครสันติสุข ดีไซเนอร์ชื่อดังเจ้าของแบรนด์ wishrawish ผู้สนองงานผ้าไทยใส่ให้สนุก ร่วมบรรยาย ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตําบลตลาด อําเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
จากนั้นเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการและการแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตกรรม ชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามโครงการยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้า ไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปี หลวง รักษาสมบัติทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะศิลปหัตถกรรมทอผ้าในแต่ละท้องถิ่ น อนุรักษ์ ฟื้นฟู ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาหัตถกรรมไทย ให้ดํารงอยู่ยั่งยืนตลอดไป อีกทั้งยังเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ศิลปภูมิปัญญาไทยและสร้างความเชื่อมโยงกันใน ใบจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประชาสัมพันธ์ศิลปหัตถกรรมภูมิปัญญาไทยของ กลุ่มผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผศ.ดร.ศศิธร จันทมฤก ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ผู้ว่าราชการ จังหวัด 11 จังหวัด ถวายรายงาน และกลุ่มทอผ้าเฝ้ารับเสด็จ จํานวน 52 กลุ่ม ประกอบด้วย จังหวัดมหาสารคาม 8 กลุ่ม จังหวัดกาฬสินธุ์ 6 กลุ่ม จังหวัดนครราชสีมา 5 กลุ่ม จังหวัดบุรีรัมย์ 5 กลุ่ม จังหวัดสุรินทร์ 5 กลุ่ม จังหวัดชัยภูมิ 5 กลุ่ม จังหวัดขอนแก่น 5 กลุ่ม จังหวัดร้อยเอ็ด 5 กลุ่ม จังหวัดศรีสะเกษ 5 กลุ่ม จังหวัดยโสธร 2 กลุ่ม และ จังหวัดอุดรธานี 1 กลุ่ม
กิจกรรมประกอบด้วย การจัดนิทรรศการภูมิปัญญาผ้าไทยภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ผ้าอัตลักษณ์ประจําจังหวัด 11 จังหวัด การแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าของ กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า ได้แก่ การจัดแสดงนิทรรศการผ้า การทอผ้า การ สาวไหม การย้อมครั่ง และเส้นไหมย้อมสีธรรมชาติตามเทรนด์บุ๊ค ของกลุ่มผ้าสารทแก้ว ผ้าทอลายโบราณ และกลุ่มเครือข่ายย้อมสีธรรมชาติจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นกลุ่มทอ ผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติที่สามารถย้อมสีธรรมชาติได้หลายเฉดสีสวยงามเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าทอของกลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติบ้านโคกล่าม จังหวัดมหาสารคาม ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองพระราชทาน ประเภทผ้ามัดหมี่ 2 ตะกอ กลุ่มผ้ายกดีเทล จังหวัดนครราชสีมา ที่ใช้เส้นไหมย้อมสีธรรมชาติตามแบบหนังสือเทรนด์ บุ๊คได้อย่างสมบูรณ์ลงตัว จนได้รับรางวัลเหรียญทองพระราชทานการให้สีตามเทรนด์บุ๊ค และได้รับรางวัลเหรียญทองพระราชทาน ประเภทผ้ายกเล็ก กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก จังหวัดอุดรธานีที่ได้รับรางวัลเหรียญทองพระราชทาน ประเภทผ้ามัดหมี่ 3 ตะกอขึ้นไป ในการประกวดผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ อีกทั้งยังมีกลุ่มที่เคยเฝ้ารับเสด็จและมีพระ วินิจฉัยให้มีการพัฒนานําการบ้านที่พัฒนาแล้วมาส่งให้พระองค์ได้ทอดพระเนตร ได้แก่กลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ที่ทรงมีพระวินิจฉัยเรื่องเนื้อผ้าที่แข็งเกินไป ต้องปรับปรุงการใช้สี การเก็บงานผ้ายังไม่เรียบร้อย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้า ไหมวัยรุ่น Thai young silk มีพระวินิจฉัยให้ใช้ไหมน้อย ย้อมสีธรรมชาติ ผ้าจกให้ใช้ดิ้น เงินจก กลุ่มสัมมาชีพชุมชนทอผ้าไหมมงคลสีธรรมชาติจังหวัดมหาสารคาม ทรงมีพระ วินิจฉัยให้ทอผ้าสไลด์สีด่างทั้งเส้นพุ่งและเส้นยืน และให้ทอหน้ากว้าง 1.5 เมตร เป็นต้น ซึ่งกลุ่มได้ทําการพัฒนาชิ้ นงานมาส่งการบ้านให้พระองค์ทอดพระเนตร พระราชทาน คําแนะนํา และมีพระวินิจฉัย ตลอดทั้งยังมีการ Coaching เพื่อให้คําปรึกษาแนะนําการ ยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยและเป็นสากลมากขึ้น โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านผ้า และแฟชั่นแถวหน้าของเมืองไทยให้คําแนะนํา
โอกาสนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระวินิจฉัยในการพัฒนายกระดับผ้าไทยแก่กลุ่มทอผ้า ด้วยพระอัจฉริยภาพ พระองค์ทรงต่อยอด ผสมผสานมุมมองด้านแฟชั่นที่ร่วมสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งการสืบสานอัตลักษณ์ เรื่องราว ประจําภูมิภาค ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ เป็นคุณูปการอย่างยิ่ งแก่ปวงชนคนไทย เป็นสิ่ งที่ประจักษ์ชัดถึงพระประปรีชาสามารถในด้านการออกแบบ กลุ่มที่มาร่วมงานได้ถวายผลงานให้ทอดพระเนตร พระองค์ทรงพระอัจฉริยภาพ ทรงแนะนําชี้ให้เห็นใน รายละเอียดของแต่ละชิ้นงาน และพระองค์ทรงมีพระวินิจฉัย พระราชทานคําแนะนําให้แก่ กลุ่มทอผ้า อีกประการสําคัญ คือพระองค์ท่านทรงติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด โดย มีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าและแฟชั่นร่วมให้คําแนะนํา ในการนี้ในคราวเสด็จกลุ่มทอผ้ากลุ่ม ทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บ้านนาหว้า อําเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ทรงพระราชทานแบบลาย ผ้า “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ผ่านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดีกุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เพื่อให้กับช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค นําไปใช้ทอผ้า ผลิตผ้าตามอัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่ นทั่วประเทศ
“ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” พระองค์ได้รับแรงบันดาลพระทัยจาก “ผ้าขิดลายสมเด็จ” ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชทาน แก่ราษฎร อันเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย โดยแต่ละลวดลายมี ความหมายที่ลึกซึ้งดังนี้
ลาย S ที่ท้องผ้า หมายถึง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรง เป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าไทย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารี รัตนราชกัญญา ได้ทรงออกแบบให้เว้นช่องว่างไว้เพื่อให้ราษฎรได้ร่วมถักทอลวดลายของ ตนเองลงในช่องว่าง เป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากแต่ละท้องถิ่น โดยลายขิดที่ เป็นกรอบล้อมรอบตัว S นี้หมายถึงความจงรักภักดีที่ชาวไทยมีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์
ลายเชิงผ้ารูปหัวใจ หมายถึง ความรักของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่มีต่อปวงชนชาวไทย
ลาย S ประกอบกับลายขิดที่เชิงผ้า หมายถึง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงปรารถนาให้คนไทยอยู่ดีมีสุข
ลายต้นสนที่เชิงผ้า หมายถึง พระดําริใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการ ฟื้นฟูประวัติศาสตร์ของโครงการศิลปาชีพฯ อันลายต้นสนนี้เป็นลวดลายพื้นถิ่ นที่ถักทอ อยู่บนผืนผ้าของบ้านนาหว้า จังหวัดนครพนม ที่ซึ่งเป็นจุดกําเนิดโครงการศิลปาชีพฯ
ลายหางนกยูงที่เชิงผ้า หมายถึง ความตั้งพระทัยมั่นของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราช กัญญา ในการสืบสาน รักษาและต่อยอด พระราชกรณียกิจของสมเด็จย่าของพระองค์ในการฟื้นคืนภูมิปัญญาผ้าไทยให้ดํารงคงอยู่คู่แผ่นดิน
นับเป็นพระกรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชทานคําแนะนําในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธาน ตลอดจน การพัฒนายกระดับผ้าไทยให้เป็นที่รู้จักสู่สากล ยังความปราบปลื้มให้แก่กลุ่มทอผ้าและ พสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จ