วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) พร้อมด้วยนายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองเลขาธิการส.ป.ก. ,นายสุรชัย ยุทธชนะ ผู้อำนวยการสำนักจัดการปฏิรูปที่ดิน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง ของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรรม จำนวน ๑๕ กรณีปัญหา ณ ห้องประชุม ๓ ชั้น ๓ อาคารสำนักงาน ก.พ.(เดิม) ทำเนียบรัฐบาล โดยการประชุมครั้งนี้มี นายอนุชา นาคาสัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง ซึ่งในส่วนของ ส.ป.ก.เป็นคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงกรณีราษฎรได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการของรัฐได้แก่ กรณีผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยฝั่งแดง จังหวัดอุบลราชธานี ,โครงการแก้มลิงทุ่งทับใน จังหวัดนครศรีธรรมราช ,โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่มอก จังหวัดลำปาง ,โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรี จังหวัดอุตรดิตถ์, โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่งาว จังหวัดลำปาง และโครงการผันน้ำยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีรายละเอียดดังนี้
๑) กรณีผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ห้วยฝั่งแดง จังหวัดอุบลราชธานี การดำเนินการเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ คณะทำงาน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ มีมติให้ฝ่ายเลขานุการฯ ทำหนังสือถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีและกรมชลประทาน เพื่อเร่งรัดจัดประชุม คณะทำงานเพื่อศึกษาแนวทาง งบประมาณ หลักเกณฑ์ และขั้นตอนในการจัดหาที่ดินให้ผู้ได้รับผลกระทบในเรื่องการจัดซื้อที่ดินให้ผู้ได้รับผลกระทบ และให้กรมชลประทานดำเนินการออกแบบเพื่อปรับลดระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยฝั่งแดงอย่างน้อยร้อยละ ๗๐ และลดระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยฝั่งแดงให้เหลือ ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ในกรณีจัดหาที่ดินไม่ได้เพื่อให้เกษตรกรได้ที่ดินคืนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
๒) โครงการแก้มลิงทุ่งทับใน จังหวัดนครศรีธรรมราชการดำเนินการเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ คณะทำงาน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ มีมติให้ฝ่ายเลขานุการฯ ทำบันทึกประเด็น ที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสอบปากคำราษฎรที่ประสงค์ขอรับ เยียวยาจากภาครัฐ จำนวน ๕๘ ราย รายงานผลการตรวจมายังคณะอนุกรรมการประสานงานเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมและขับเคลื่อนนโยบาย ๙ ด้าน ทราบแล้ว เพื่อจะได้ติดตามเร่งรัดการทำงานต่อไป
๓) โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่มอก จังหวัดลำปาง การดำเนินการเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ คณะทำงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ มีมติให้กรมชลประทานทำหนังสือเสนอสำนักงานคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ จำนวน ๑๐๓ ราย หากมีความคืบหน้าให้กรมชลประทานรายงานให้คณะทำงานฯ ทราบ
๔) โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรี จังหวัดอุตรดิตถ์การดำเนินการ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ คณะทำงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ มีมติให้รอผลการหารือที่กรมชลประทานเสนอสำนักงานคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบมาขึ้นทะเบียนผู้ไร้ที่ดินทำกิน ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุตรดิตถ์(ส.ป.ก.อุตรดิตถ์) และเมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๔ จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าวโดยมอบ ส.ป.ก.อุตรดิตถ์ แจ้งผู้ประสานงานผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบฯ ต้องการให้กรมชลประทานเร่งชดเชยเยียวยาโดยด่วนที่สุดและไม่ขอรับการจัดสรรที่ดินของ ส.ป.ก.
๕) โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่งาว จังหวัดลำปางการดำเนินการ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ คณะทำงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ มีมติให้กรมชลประทานหารือกับราษฎรในพื้นที่ และตกลงร่วมกันที่จะไม่ก่อสร้างอ่างเก็บ น้ำแม่งาวในจุดที่ ๔ แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินความเหมาะสมในการก่อสร้างโครงการและยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่งาว
๖) โครงการผันน้ำยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน การดำเนินการ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ คณะทำงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ มีมติให้ฝ่ายเลขานุการฯ เร่งรัดให้คณะทำงานโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดประชุมโดยเร็ว
ซึ่งก่อนการประชุมครั้งนี้ได้มีการตรวจ ATK คัดกรองผู้เข้าร่วมประชุมและจัดให้มีการถ่ายทอดการประชุมผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อลดความแออัด ให้เป็นไปตามมาตรการป้องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙