กรมอนามัย ชี้ น้ำบริโภคดี-ไม่ดี อย่าทดสอบแค่กรด-ด่าง เผย ได้ยกร่างกฎกระทรวงคุณภาพน้ำบริโภคคุมมาตรฐานทุกแหล่ง

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะน้ำดื่มสะอาดไม่ได้วัดที่ค่าความเป็นกรด-ด่าง แต่มีหลายปัจจัยช่วยยืนยันค่าความสะอาด ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกตามคลิป พร้อมเผยกรมอนามัยได้ยกร่างกฎกระทรวงคุณภาพน้ำบริโภคของประเทศไทยเพื่อกำหนดมาตรฐานน้ำบริโภคให้มีมาตรฐานครอบคลุม ทุกแหล่ง

นายแพทย์ดนัย  ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการโพสต์คลิปนำน้ำดื่ม ยี่ห้อต่าง ๆ มาทดสอบว่าน้ำดื่มยี่ห้อไหนมีสภาพความความเป็นกรด-ด่างต่างกันอย่างไร ด้วยการใช้ชุดทดสอบ แบบหยดสารเคมีผสมกับน้ำที่ต้องการตรวจ และประเมินว่ายี่ห้อไหนมีค่าเท่าไหร่จากการเปรียบเทียบสีโดยจากการสาธิตทดสอบน้ำดื่มยี่ห้อต่าง ๆ และแสดงผลทดสอบนั้น ส่วนใหญ่ไม่ปรากฏค่าเป็นน้ำที่สะอาดดื่มได้ แต่กลับพบค่าเป็นสีที่แตกต่างและแสดงให้เห็นว่าน้ำในแต่ละยี่ห้อไม่มีคุณภาพ ไม่ควรนำมาดื่ม ซึ่งการเผยแพร่คลิปดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อประชาชนที่จะเลือกน้ำดื่มเพื่อบริโภคได้ เพราะการ  จะพิจารณาน้ำบริโภคดีหรือไม่ดีมีหลายตัวชี้วัด​ ไม่ใช่แค่​ความเป็นกรด​-ด่าง​ อย่างมาตรฐานคุณภาพน้ำประปาดื่มได้ที่กรมอนามัยกำหนด​เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพน้ำประปานั้นมีถึง​20​ ตัวชี้วัดทั้งด้านกายภาพ​ เคมี​ แบคทีเรีย ​โดยเฉพาะค่าความเป็นกรด-ด่าง​ กำหนดเป็นช่วง​ 6.5-8.5 จึงไม่แปลกที่ผลทดสอบตามคลิป จะเปลี่ยนสีและประชาชนไม่ต้องกังวลในค่าความเป็นกรด-ด่าง​ของน้ำดื่ม  รวมถึงคลิปการทดลองวัดคุณภาพน้ำบริโภคด้านความกระด้าง การวัดการเหนี่ยวนำด้วยไฟฟ้า เป็นต้น

นายแพทย์ดนัย กล่าวต่อไปว่า จากการสุ่มตรวจสอบคุณภาพน้ำบริโภคในปี 2561 ของกรมอนามัยพบว่า มีคุณภาพเหมาะสมสำหรับการบริโภค ร้อยละ 40.13 โดยน้ำประปาน้ำตู้หยอดเหรียญและน้ำบรรจุถัง 20 ลิตร มีคุณภาพเหมาะสมสำหรับการบริโภคมากที่สุด แต่สำหรับพื้นที่ทุรกันดารที่ขาดแคลนน้ำสะอาด ก่อนนำมาดื่มควรต้มให้เดือดอย่างน้อย 1 นาที เก็บในภาชนะที่สะอาดมีฝาปิดมิดชิด ส่วนการนำน้ำจากแม่น้ำลำคลอง หรือแหล่งน้ำผิวดินแหล่งอื่น ๆ มาใช้โดยตรง ควรปรับปรุงคุณภาพน้ำและฆ่าเชื้อโรคก่อนด้วยการแกว่งสารส้มชนิดก้อนในน้ำและให้สังเกตตะกอนในน้ำ หากเริ่มจับตัวให้นำสารส้มออก ตั้งทิ้งไว้จนตกตะกอนแล้วนำเฉพาะน้ำใสมาฆ่าเชื้อโรคโดยใช้หยดทิพย์ อ.32 ของกรมอนามัยซึ่งเป็นสารละลายคลอรีนชนิดเข้มข้น  2 เปอร์เซ็นต์ ในอัตราส่วน 1 หยดต่อน้ำ 1 ลิตร หรือเติมผงปูนคลอรีนตามปริมาณที่กำหนด จากนั้นปล่อยให้มีระยะเวลาฆ่าเชื้อโรคอย่างน้อย 30 นาที ก่อนนำไปใช้ ซึ่งจะช่วยป้องกันเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในน้ำได้

“ทั้งนี้ กรมอนามัยได้ยกร่างกฎกระทรวงคุณภาพน้ำบริโภคของประเทศไทยขึ้นเพื่อกำหนดมาตรฐานน้ำบริโภคให้มีมาตรฐานครอบคลุมทุกแหล่ง​ โดยเฉพาะน้ำประปาซึ่งมีตัวชี้วัดถึง​ 21​ ตัว​ครอบคลุมทั้งทางกายภาพ​ เคมี​ แบคทีเรีย​เพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนต่อไป” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

********************************************