สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนินจังหวัดนครพนมเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของโครงการศิลปาชีพ

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนินจังหวัดนครพนมเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของโครงการศิลปาชีพ และในโอกาสเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 90 พรรษา

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนิน ณ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เสด็จทอดพระเนตรกลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วัดธาตุประสิทธิ์ และหอประชุมโรงเรียนนาหว้าพิทยาคม ตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของโครงการศิลปาชีพ และในโอกาสเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 90 พรรษา เพื่อสร้างการรับรู้ประวัติศาสตร์สู่คนรุ่นหลัง และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศศิธร จันทมฤก ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ สมาชิกกลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และประชาชนชาวจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง เฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก

โอกาสนี้ ทรงเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการตามรอยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย ผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ (พระกฐินต้น) ที่วัดธาตุประสิทธิ์ และชมนิทรรศการความเป็นมาของกลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

ปัจจุบันกลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีการสืบทอดภูมิปัญญาสู่ลูกหลาน ใช้อาคารศูนย์หัตถกรรมและจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านวัดธาตุประสิทธิ์ และกลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ ณ วัดศรีโพธิ์ชัย เป็นแหล่งเรียนรู้กระบวนการทอผ้า ซึ่งบรรจุไว้ในหลักสูตรภูมิปัญญาท้องถิ่นของโรงเรียนบ้านนาหว้า และโรงเรียนนาหว้าพิทยาคม และโรงเรียนราษฎร์สามัคคี มีสมาชิกกลุ่มในพื้นที่อำเภอนาหว้าทั้งศูนย์หัตถกรรมและจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านวัดธาตุประสิทธิ์ และกลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ รวม 180 คน มีการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ อย่างต่อเนื่องทุกปี และมีกิจกรรมทอผ้าไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยสมาชิกได้รวมกันทอผ้าไหมเฉลิมพระเกียรติ ทูลเกล้าฯ ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ในปี 2565 มีการทอผ้าไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 90 พรรษา จำนวน 92 เมตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานสิ่งที่ยั่งยืนแก่ราษฎร พระองค์ท่านทรงนำงานผ้าที่ราษฎรทำอยู่แล้ว ในครัวเรือน สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษและมีความคุ้นเคยอยู่แล้ว มาสร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอดสร้างงานสร้างรายได้เลี้ยงชีพได้อย่างยั่งยืน ก่อเกิดมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในทุกถิ่นทั่วผืนแผ่นดินไทย

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระราชทานแบบลายผ้า “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ผ่านปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค นำไปทอผ้า ผลิตผ้าตามอัตลักษณ์ภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศ ทรงออกแบบผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” โดยได้รับแรงบันดาลพระทัยจาก “ผ้าขิดลายสมเด็จ” ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงพระราชทานแก่ราษฎร อันเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย โดยแต่ละลวดลายมีความหมายที่ลึกซึ้ง ดังนี้

ลาย S ที่ท้องผ้า หมายถึง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าไทย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงออกแบบให้เว้นช่องว่างไว้ เพื่อให้ราษฎรได้ร่วมถักทอลวดลายของตนเองลงในช่องว่าง เป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากแต่ละท้องถิ่น โดยลายขิดที่เป็นกรอบล้อมรอบตัว S นี้ หมายถึงความจงรักภักดีที่ชาวไทยมีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์

ลายเชิงผ้ารูปหัวใจ หมายถึง ความรักของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่มีต่อปวงชนชาวไทย

ลาย S ประกอบกับลายขิดที่เชิงผ้า หมายถึง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงปรารถนาให้คนไทยอยู่ดีมีสุข

ลายต้นสนที่เชิงผ้า หมายถึง พระดำริใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการฟื้นฟูประวัติศาสตร์ของโครงการศิลปาชีพฯ อันลายต้นสนนี้ เป็นลวดลายพื้นถิ่น ที่ถักทออยู่บนผืนผ้าของบ้านนาหว้า จังหวัดนครพนม ที่ซึ่งเป็นจุดกำเนิดโครงการศิลปาชีพฯ

ลายหางนกยูงที่เชิงผ้า หมายถึง ความตั้งพระทัยมั่นของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการสืบสาน รักษาและต่อยอด พระราชกรณียกิจของสมเด็จย่าของพระองค์ ในการฟื้นคืนภูมิปัญญาผ้าไทยให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดิน

จากนั้น ทรงเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการผลิตภัณฑ์ผ้าและงานหัตถกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม, สกลนคร, อุบลราชธานี, มุกดาหาร, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, เลย,อำนาจเจริญ, อุดรธานี, หนองคาย และจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ หอประชุมโรงเรียนนาหว้าพิทยาคม อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ตามโครงการยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นกิจกรรมเพื่อยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ศิลปหัตถกรรมภูมิปัญญาไทย และสร้างการเชื่อมโยงร่วมกันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประชาสัมพันธ์ผลงานอัตลักษณ์ศิลปหัตถกรรมภูมิปัญญาไทยของกลุ่มผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีกลุ่มผู้เฝ้ารับเสด็จขอพระราชทานคำแนะนำ จำนวน 40 กลุ่ม

ประกอบด้วยกลุ่มศิลปาชีพ กลุ่มเยาวชน OTOP กลุ่มอนุรักษ์ผ้าโบราณ กลุ่ม OTOP พรีเมี่ยม จาก 10 จังหวัด และกลุ่มถวายรายงานส่งการบ้านผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาตามพระวินิจฉัย จำนวน 10 กลุ่ม และมีทีมผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ จำนวน 5 ราย ด้วยพระอัจฉริยภาพ พระองค์ทรงต่อยอดผสมผสานมุมมองด้านแฟชั่นที่ร่วมสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งการสืบสานอัตลักษณ์ เรื่องราวประจำภูมิภาค ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ เป็นคุณูปการอย่างยิ่งแก่ปวงชนคนไทย เป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดถึงพระปรีชาสามารถในด้านการออกแบบ กลุ่มที่มาร่วมงานได้ถวายผลงานให้ทอดพระเนตร พระองค์ทรงพระอัจฉริยภาพ ทรงแนะนำชี้ให้เห็นในรายละเอียดของแต่ละชิ้นงาน และพระองค์ทรงมีพระวินิจฉัย พระราชทานคำแนะนำให้แก่ทุกชิ้นงาน อีกประการสำคัญ คือพระองค์ท่านทรงติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพสกนิกร ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนินทรงตามรอยพระบาท คู่พระบารมี สู่ต้นกำเนิดศิลปาชีพ ในการประกอบพระราชกรณียกิจทรงเยี่ยมกลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ และราษฏรที่อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม รวมถึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จาก 10 จังหวัดภาคนะวันออกฉียงเหนือ ในครั้งนี้