สมศักดิ์เปิดอบรม สร้างนักแกะรอยการเงิน หนุนนโยบายยึดทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดอบรม หลักสูตร “นักสืบสวนธุรกรรมทางการเงินและนักสืบทรัพย์” เพื่อพัฒนาศักยภาพการสืบสวนธุรกรรมทางการเงินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด แก่เจ้าหน้าที่สืบสวน โดยมี นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน ได้แก่ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมจากส่วนกลางประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ส. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้เข้าอบรมผ่านระบบประชุมทางไกลประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1-9/กทม. กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัด จำนวนรวมทั้งหมด 200 นาย ณ สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง)

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า “ในอดีตเราจะรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข่าวบุคคลเป็นหลัก แต่ปัจจุบันการตรวจสอบร่องรอยการสื่อสารและร่องรอยทางการเงิน เพื่อแสวงหาพยานหลักฐาน (Financial Investigation) มีความสำคัญขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปลายทางการกระทำผิดของอาชญากรรมล้วนมีจุดมุ่งหมายเป็นเงินหรือทรัพย์สิน ซึ่งการกระทำธุรกรรมเพื่อเงินหรือทรัพย์สินเหล่านั้นล้วนทิ้งร่องร่อย รวมถึงอาชญากรที่อาจใช้การฟอกเงิน (Money Laundering) เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงจำเป็นต้องพัฒนาความรู้ถึงเทคนิคในการสืบค้นเพื่อให้ได้พยานหลักฐานจากการทำธุรกรรมเหล่านั้น เพื่อจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษ ตามเป้าหมายยึดทรัพย์ที่ตั้งไว้ในปี 2565 คือ 10,000 ล้านบาท”

การสืบสวนทางการสื่อสารและร่องรอยการเงินนอกจากเป็นเครื่องมือช่วยในการจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษแล้ว ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่นำไปใช้ในการริบทรัพย์สิน ตามรูปแบบการยึดทรัพย์รูปแบบใหม่ คือการยึดทรัพย์ตามมูลค่า หรือ Value Based Confiscation โดยประมวลกฎหมายยาเสพติดมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา และตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เน้นย้ำการปราบปรามยาเสพติด ยึดทรัพย์ เพื่อตัดวงจรยาเสพติด พัฒนายกระดับการทำงานของเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะด้านปราบปรามยาเสพติด ซึ่งจำเป็นต้องมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ

การอบรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 18 มกราคม 2565 โดยมีหัวข้อการอบรมประกอบด้วย เนื้อหานโยบายการปราบปรามยาเสพติดโดยใช้มาตรการริบทรัพย์สิน,การสืบสวนทางการเงินควบคู่กับการสืบสวนพฤติการณ์,เทคนิคการสืบสวนเส้นทางการเงินและการติดตามร่องรอยทางบัญชี,การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อการวิเคราะห์ทรัพย์สิน,การรับฟังพยานหลักฐานทางการเงินในชั้นศาล,การสืบหาทรัพย์สินเพื่อการบังคับคดี,มาตรการทางภาษีกับการทำธุรกรรมทางเงินที่ผิดกฎหมาย และการประสานข้อมูลเพื่อการสืบสวนธุรกรรมทางการเงิน โดยมีวิทยากรในการอบรมเป็นผู้เชี่ยวชาญจาก สำนักงาน ป.ป.ส. สำนักงานศาลยุติธรรม ศาลภาษีอากรกลาง สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมบังคับคดี กรมสรรพากร และสถาบันทางการเงินชั้นนำของประเทศ

“วัตถุประสงค์ในการอบรม คือเน้นให้มีการสืบสวนพฤติการณ์การกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับ ยาเสพติดควบคู่ไปกับการยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติด ผู้เข้ารับการอบรมจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกับการวิเคราะห์ทางการเงิน ร่องรอยทางบัญชีที่เกินกว่าฐานะ เงินที่ไม่สามารถหาที่ไปที่มาได้หรือ Dark money รูปแบบในการปฏิบัติงานในการรวบรวมพยานหลักฐานในการสืบสวนปราบปราม และตรวจสอบทรัพย์สิน อีกทั้งจะสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานไปในทางเดียวกัน ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายตามประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ ซึ่งการอบรมจะจัดขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค”นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว