วันที่ 10 มกราคม 2565 ภายใต้การอำนวยการของ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี โดยนางคำประไพ รักษาขันธ์ พัฒนาการอำเภอตระการพืชผล มอบภารกิจให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ ลงพื้นที่ติดตามความสำเร็จการดำเนินงานของครัวเรือนต้นแบบโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ครัวเรือนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับครัวเรือน (Househole Lab Model for quality oflife : HLM) แปลงนางอำนวย อยู่สบาย และนางบุญเพ็ง สุดตา พื้นที่ดำเนินการ 1 ไร่ บ้านหนองเต่า หมู่ที่ 4 ตำบลกุดยาลวน อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งภายในแปลงมีการดำเนินการปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ เช่น โหรพา กระเพา ผักกาด แตงกวา มันเทศ แตงไทย ข้าวโพด กล้วย สับปะรด ฝรั่ง ฯลฯ เพื่อบริโภคภายในครัวเรือน เมื่อเหลือจึงได้มีการจำหน่าย และสามารถสร้างรายได้แก่ครัวเรือน รวมถึงมีการเลี้ยงปลาและปลูกแหนแดงในบ่อ ทั้งในบ่อและในคลองไส้ไก่ เพื่อเป็นปุ๋ยบำรุงดิน เพิ่มธาตุอาหารและใช้เลี้ยงเป็ดและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ อีกด้วย ถือเป็นการสร้างความสุข ความอุดมสมบูรณ์ ที่เกิดจากความมั่นคงทางอาหารและเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในครัวเรือน ช่วยลดรายจ่ายเพิ่มรายได้และเป็นตัวอย่างให้แปลงอื่นได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไปด้วย
โอกาสนี้ เจ้าของแปลงเปิดเผยว่า “มีความสุขและความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการเป็นส่วนหนึ่งที่มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการฯ และดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะผลผลิตที่สามารถบริโภคและสามารถสร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือนในปัจจุบัน อนาคตต่อไปจะมุ่งดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และหลักกสิกรรมธรรมชาติ ที่ว่า “พอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น” หรือเศรษฐกิจพอเพียงขั้นพื้นฐาน ที่ตนได้รับการฝึกอบรมมา ขอขอบคุณหน่วยงาน กรมการพัฒนาชุมชน จังหวัด อำเภอ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ที่ให้การสนับสนุนจนสามารถนำพาความความมั่นคงทางอาหารและความอุดมสมบูรณ์มาให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19”
ขณะที่ นางคำประไพ รักษาขันธ์ พัฒนาการอำเภอตระการพืชผล ได้เปิดเผยว่า “สำหรับอำเภอตระการพืชผล มีแปลงที่เข้าร่วมโครงการ “โคก หนอง นา พช.” มากที่สุดในประเทศไทย มากกว่า 1 พันแปลง จนได้รับการขนานนามว่า “มหานครแห่งโคก หนอง นา” จึงต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้ ทำให้เห็นได้ชัดว่า โคก หนอง นา เป็นการผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ให้เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้าน จนประสบสำเร็จและมีผลผลิตหลากหลาย สร้างรายได้และอาชีพให้กับครัวเรือน รวมถึงช่วยเหลือ แบ่งปันและเป็นต้นแบบให้กับครัวเรือนและชุมชนได้เข้ามาศึกษาหลักกสิกรรมธรรมชาติ นำไปประยุกต์และปรับใช้ให้เข้ากับครัวเรือนของตนเอง เพื่อสร้างชีวิตและความสุขที่ยั่งยืนในรูปแบบของเศรษฐกิจพอเพียงต่อไป”