ปภ.แนะเลือกใช้ – ตรวจสอบ – ดูแลรักษายางรถยนต์ถูกวิธี…ลดเสี่ยงยางเสื่อมสภาพ – ป้องกันอุบัติเหตุยางระเบิด

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะข้อควรรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้ ตรวจสอบ และดูแลรักษายางรถยนต์ โดยเลือกใช้ยางที่เหมาะสมกับสภาพรถ มีรุ่นและขนาดเดียวกันทั้ง 4 เส้น มีขนาดพอดีกับเส้นรอบวงของยาง กรณีใช้งานบนถนนเรียบ ควรใช้ยางที่มีดอกยางละเอียด ร่องยางแคบและถี่ เพื่อเพิ่มพื้นผิวสัมผัสกับหน้าถนน กรณีใช้งานบนถนน  ขรุขระหรือลุยโคลน ควรใช้ยางที่มีดอกยางใหญ่และร่องยางห่าง อีกทั้งหมั่นตรวจสอบแรงดันลมยางตามค่าที่กำหนดด้วยเกจ์วัดลมยาง  ที่ได้มาตรฐานอยู่เสมอ เติมแรงดันลมยางอะไหล่ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมถึงสลับยางรถยนต์ทุกระยะทาง 10,000 กิโลเมตรและหมั่นตรวจสอบระบบช่วงล่างและตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้สมดุล เพื่อป้องกันแรงเสียดทานและการลื่นไถล รวมถึงการกระจายน้ำหนักที่ไม่สมดุล  ทำให้ยางได้รับความเสียหาย และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุยางระเบิด

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์สำคัญประจำรถที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในการเดินทาง ซึ่งบ่อยครั้งมักเกิดอุบัติเหตุยางระเบิดที่มีสาเหตุมาจากยางเสื่อมสภาพ เพื่อความปลอดภัยกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้ ตรวจสอบ และดูแลรักษายางรถยนต์ ดังนี้ การเลือกใช้ยางรถยนต์ เลือกใช้ยางที่เหมาะสมกับสภาพรถ สภาพการใช้งาน และสภาพเส้นทาง รวมถึงมีขนาดเดียวกับยางที่ติดตั้งมากับรถ เลือกใช้ยางที่มีรุ่นและขนาดเดียวกันทั้ง 4 เส้น โดยเปลี่ยนยางทุกๆ 2 ปี หรือทุกระยะทาง 50,000 กิโลเมตร เลือกใช้ยางที่มีขนาดพอดี  กับเส้นรอบวงของยาง โดยมีขนาดใกล้เคียงกับมาตรฐานเดิม หรือขนาดของล้อแม็ก หากเปลี่ยนเป็นล้อเล็กให้เพิ่มขนาดแก้มยาง แต่หากเป็นล้อใหญ่ ให้ลดขนาดแก้มยาง กรณีใช้งานรถยนต์บนถนนเรียบ ควรใช้ยางที่มีดอกยางละเอียด ร่องยางแคบและถี่ เพื่อเพิ่มพื้นผิวสัมผัสกับหน้าถนน จะช่วยยึดเกาะถนนและมีประสิทธิภาพในการรีดน้ำมากขึ้น กรณีใช้งานบนถนนขรุขระหรือลุยโคลน ควรใช้ยางที่มีดอกยางขนาดใหญ่ และร่องยางห่าง เพื่อช่วยสกัดโคลน หิน หรือน้ำไม่ให้ไปติดตามดอกยางและร่องยาง การเติมแรงดันลมยางรถยนต์ หมั่นตรวจสอบแรงดันลมยางอยู่เสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือประมาณเดือนละครั้ง กรณีเดินทางไกล ควรเติมลมยางให้มากกว่าปกติ 3 – 5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ตรวจสอบแรงดันลมยางด้วยเกจ์วัดลมที่ได้มาตรฐาน ไม่ควรตรวจสอบยางด้วยสายตา เพราะอาจเกิดความคลาดเคลื่อนได้ เติมแรงดันลมยางอะไหล่ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ลมยางมากกว่ามาตรฐาน 3 – 4 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้นำมาใช้งานได้ทันที โดยลดค่าแรงดันลมยางให้อยู่ในค่าปกติ เติมแรงดันลมยางตามค่ามาตรฐานที่กำหนดในขณะที่ยางเย็นตัว จะได้ค่าแรงดันลมยางที่ถูกต้อง หากเติมหลังขับรถหรือในขณะที่ยางยังมีความร้อน จะได้ค่าแรงดันลมยางสูงกว่าปกติ ไม่เติมแรงดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐาน เพราะหน้ายางจะยุบตัวและสัมผัสพื้นผิวถนนมากกว่าปกติ ทำให้แก้มยางฉีกขาด ไหล่ยางเกิดความร้อนสูงและสึกหรอเร็วกว่าส่วนอื่น รวมถึงส่งผลให้พวงมาลัยบังคับยากขึ้น ไม่เติมแรงดันลมยางมากกว่าปกติ เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน ทำให้เสี่ยงต่อการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง และเมื่อ ได้รับแรงกระแทกจะทำให้ยางระเบิดได้ง่าย รวมถึงส่งผลให้ช่วงล่างรถยนต์สึกหรอเร็วขึ้น การดูแลรักษายางรถยนต์ สลับยางรถยนต์ ทุกระยะทาง 10,000 กิโลเมตร จะช่วยลดการสึกหรอและทำให้หน้ายางเรียบเสมอกันทั้ง 4 เส้น พร้อมปรับแรงดันลมยางของล้อหน้าและล้อหลังให้มีค่ามาตรฐานตามที่กำหนด หมั่นตรวจสอบระบบช่วงล่างและตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้สมดุล เพื่อป้องกันแรงเสียดทานและการลื่นไถล รวมถึงการกระจายน้ำหนักที่ไม่สมดุล ทำให้ยางได้รับความเสียหายได้ ทั้งนี้ การเลือกใช้ยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน และสภาพเส้นทาง การหมั่นตรวจสอบและดูแลยางอยู่เสมอ การเติมแรงดันลมยางตามค่ามาตรฐานที่กำหนด จะช่วยยืดอายุการใช้งาน  ของยางและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุยางระเบิด

*********************************************