กรมเจ้าท่า เสริมทรายชายหาด ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ประเทศ ส่งความสุขปีใหม่ 2565 ให้ประชาชน

จากนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายให้กรมเจ้าท่า พัฒนาชายฝั่งทะเลด้านการเสริมทราย เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะ ฟื้นฟูพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้และส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ

วันที่ 29 ธันวาคม 2564 นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการอธิบดีกรมเจ้าท่า มอบหมายนายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ เป็นประธานในพิธีส่งมอบพื้นที่เสริมทรายชายหาดจอมเทียนที่แล้วเสร็จ 800 เมตร ของโครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี 3,575 เมตร ให้เทศบาลตำบลนาจอมเทียนอย่างเป็นทางการ โดยมีนายสมพงษ์ สายนภา นายกเทศมนตรีเทศบาลนาจอมเทียน เป็นผู้รับมอบ พร้อมหน่วยงานราชการในพื้นที่ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ บริเวณหน้าชายหาดจอมเทียน ซอยนาจอมเทียน 2

ชายหาดจอมเทียน เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชลบุรีในประเทศไทย ปัจจุบันเกิดสภาพปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอยู่ในขั้นวิกฤตรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ชายหาดถดถอยและลดขนาดลงไปทุกปี ในปี พ.ศ. 2558 กรมเจ้าท่า จึงได้ว่าจ้างสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดำเนินการศึกษาวางแผนแม่บท และสำรวจออกแบบการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในระยะยาว และดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนอย่างครบถ้วน

โครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ระยะที่ 1 ระยะทาง 3,575 เมตร กรมเจ้าท่า ได้ว่าจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการงานเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน ตั้งแต่บริเวณนาจอมเทียน 4 จนถึงบริเวณจอมเทียน 11 โดยใช้แหล่งทรายจากเกาะรางเกวียน ซึ่งเป็นทรายที่ใช้เสริมทรายชายหาดพัทยา ห่างจากชายหาดจอมเทียนไปทางทะเล 15 กิโลเมตร ทำให้จากเดิมที่มีชายหาดกว้างประมาณ 5 เมตร เปลี่ยนเป็นชายหาดกว้างขึ้นเฉลี่ย 51 เมตร และมีความยาว 800 เมตร การปรับปรุงเสริมทรายในครั้งนี้ จะสามารถใช้เป็นพื้นที่สันทนาการได้ดีกว่าเดิมและจัดกิจกรรมชายหาดต่างๆ ส่งผลให้เกิดรายได้ต่อประชาชนและภาคธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จากการศึกษาของโครงการจากการลงทุนหนึ่งบาท จะได้ผลตอบแทนกลับมาที่ 3.23 บาท และจากการคาดการณ์ ในระยะเวลา 25 ปี จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 28,042 คน สร้างรายได้ให้กับประเทศและประชาชนในท้องถิ่นได้มากขึ้น ยกระดับภาพลักษณ์ของชายหาดท่องเที่ยวทั้งระบบของชายหาดพัทยา-จอมเทียน จากชายหาดท่องเที่ยวแบบแยกส่วน เป็นระบบชายหาดท่องเที่ยวของประเทศ

ก่อนการมอบพื้นที่ชายหาดเสริมทรายแล้วเสร็จให้กับทางเทศบาลฯ กรมเจ้าท่า ได้จัดประชุมกลุ่มย่อย ครั้งที่ 2 กับส่วนราชการ และประชาชนในท้องถิ่น เพื่อนำข้อมูลข่าวสารการดำเนินงานโครงการแจ้งให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้ได้รับผลกระทบทราบ และรับฟังความคิดเห็น เพื่อนำมาปรับปรุงการดำเนินงาน สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น และลดปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไปในอนาคตได้

ทั้งนี้ ทางกรมเจ้าท่า พร้อมเดินหน้าเสริมทรายชายหาดจอมเทียนในส่วนที่เหลือ ในพื้นที่เขตเมืองพัทยา ความยาว 2.5 กิโลเมตร เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะจุดอื่นๆ และในอนาคตมีแผนงานเสริมทรายชายหาดท่องเที่ยวในอีก 10 ปีข้างหน้า เช่น ชายหาดบางแสน ชายหาดสมิหลา ชายหาดชะอำ ชายหาดเขาหลัก ชายหาดบางเสร่ ชายหาดอ่าวดงตาล ชายหาดแสงจันทร์ ชายหาดปราณบุรี และชายหาดทรายรี เป็นต้น ระยะทางรวมประมาณ 42 กิโลเมตร ซึ่งการเสริมทรายชายหาดนอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะและฟื้นฟูชายหาดอย่างยั่งยืนแล้ว ยังช่วยส่งเสริม สนับสนุนภาคการท่องเที่ยว และสร้างรายได้เป็นจำนวนมากให้กับประเทศอีกด้วย