วันที่ 20 ธันวาคม 2564เวลา 09.00 น.นางสาววริศรา โสภาค พัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้ นายชัยยงค์ ผ่องใส ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยนางนริตา ไตรสรณกุล ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดศรีสะเกษ (กพสจ.) นักวิชาการพัฒนาชุมชนจังหวัด/อำเภอขุนหาญ และสมาชิกกลุ่มทอผ้าสิริลาวา นำโดย นางกัญณภัทร จันทะมั่น ประธานกลุ่มฯ ร่วมถ่ายทำสารคดี “โครงการสร้างภาพลักษณ์กรมการพัฒนาชุมชนด้วยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์” ปีงบประมาณ 2564 เรื่อง “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ” เพื่อใช้เป็นสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรม สร้างความรู้ความเข้าใจแนวนโยบายของรัฐบาล ข้อมูลข่าวสารการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนส๔สาธารณชนด้วยการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผ่านโทรทัศน์ ณ กลุ่มศิริลาวา ต.กระมัลพัฒนา อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
นายชัยยงค์ ผ่องใส ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน ได้กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษได้ใช้กลไกการบริหารจัดการแบบประชารัฐที่มีทุกภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการ “ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไข ร่วมติดตาม” โดยยึดหลักธรรมาภิบาลเพื่อประโยชน์สุขของประชานชาวจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้ประกาศวาระจังหวัดศรีสะเกษ “10+1 วาระการขับเคลื่อนจังหวัดศรีสะเกษ บนเส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืน” ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ ได้ขับเคลื่อนวาระผ้าทอมือ “ศรีสะเกษ ธานีผ้าศรี…แส่ว” ซึ่งเป็นวาระสำคัญของจังหวัดในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวจังหวัดศรีสะเกษ โดยใช้ภูมิปัญญาการย้อม ทอ แส่ว ของชาวจังหวัดศรีสะเกษ มาพัฒนาคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยพัฒนาผ้าพื้นเมืองเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ ครบวงจร เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้ โดยได้น้อมนำแนวพระราชดำริ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” มาขับเคลื่อนผ้าอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ จากเดิมมีการทอผ้าลายลูกแก้วย้อมจากผลมะเกลือได้ผ้าสีดำขลับ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาการย้อมดั้งเดิมของชาวอีสานใต้ มีข้อจำกัดคือไม่หลากหลายในการใช้สวมใส่ เนื่องจากเป็นสีดำ และเป็นผ้าหน้าแคบ ไม่สะดวกต่อการแปรรูปเป็นเสื้อผ้า การแส่ว ด้ายที่ใช้แส่ว เป็นสีที่ฉูดฉาด ลายที่ใช้แส่วเป็นลายไม่หลากหลาย โดยได้พัฒนาภูมิปัญญาของชาวจังหวัดศรีสะเกษให้เป็นที่ต้องการของตลาด มีรูปแบบสีสันที่ทันสมัย ใส่ให้สนุก สวมใส่ได้ทุกโอกาส สามารถแข่งขันได้ และเป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนมีรายได้ที่มั่นคง ยังยืน สามารถพึ่งตนเองได้ และเป็นการพัฒนารูปแบบ ส่งเสริมการยกระดับผ้าอัตลักษณ์ มีลวดลายทันสมัย เพิ่มมูลค่ามากขึ้น
นายชัยยงค์ ผ่องใส ผู้อำนวยการกลุ่มงาพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมีงบประมาณในการดำเนินการ จำนวน 2 ส่วน ได้แก่ เงินอุดหนุนและเงินทุนหมุนเวียน ในส่วนเงินอุดหนุนได้นำไปใช้ในการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานต่างๆให้กับกลุ่มสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเดิมกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของจังหวัดศรีสะเกษมุ่งเน้นให้กลุ่มนำไปทำเกษตรกรรม ภายใต้การนำของ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มุ่งเน้นว่าอาชีพด้านหัตถกรรม หรือภาคของการแปรรูป ภาคการตลาด เป็นตัวที่มีบทบาทสำคัญ จึงได้ให้ปรับปรุงให้เปลี่ยนแปลงนำไปพัฒนาฝีมืออาชีพต่างๆ ให้มีการเพิ่มศักยภาพการผลิตมากขึ้น เช่น กรณีของกลุ่มสิริลาวา มีความเด่นในเรื่องของการทอผ้า ได้มีการพัฒนาศักยภาพในเรื่องของการย้อม การทอ การแส่ว โดยใช้เงินอุดหนุนมาพัฒนาด้านการย้อม การทอ การแส่ว และการแปรรูป เป็นการสร้างงานสร้างรายได้ และเกิดความมั่นคง และในส่วนเงินทุนหมุนเวียน เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับให้กลุ่มสตรีนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ สร้างงานสร้างรายได้ให้เกิดกับชุมชน “กลุ่มสิริลาวา” ได้มีการขยายผลเกิดการรวมกลุ่มในการประกอบอาชีพ มีความพอเพียง เกิดความมั่นคง จึงได้มีการขยายจุดนี้ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการทอผ้าศรีลาวา ผ้าทอเบญจศรี ผ้าย้อมดินปลูกทุเรียนภูเขาไฟ โดยมีการพัฒนาการแปรรูปผ้าศรีลาวาในรูปแบบของแฟชั่น ให้สามารถใส่ได้ทุกวัน ใส่ได้ทุกโอกาส ในเรื่องของการตลาดซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งในภาวะของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) การตั้งร้านขายสินค้าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากที่จึงต้องนำเสนอสินค้าไปผ่านการตลาดออนไลน์ เราจึงใช้เงินหมุนเวียนไปเสริมเรื่องการพัฒนาความรู้ด้านการตลาด เพื่อให้ทุกกกลุ่มสามารถค้าขายผ่าน E-market ผ่านการตลาดออนไลน์ให้เกิดขึ้น เพื่อให้เป็นช่องทางการตลาดอีกทางหนึ่ง ซึ่งสามารถขายสินค้าได้ตลอดเวลา ไม่มีฤดูกาล สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมีความมุ่งหวังในเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และมีความสุข เศรษฐกิจก็จะมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน คือเป้าหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่จะทำให้เกิดขึ้นกับกลุ่มสตรีที่เป็นเป้าหมายของกรมการพัฒนาชุมชน