รมช.ประภัตร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับบ้านหนองแก่ง จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมดัน “โครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร” สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับบ้านหนองแก่ง พร้อมมอบเงินสนับสนุนงบประมาณ โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด (ด้านพืช) ณ บ้านหนองแก่ง ตำบลพลับพลา อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี ดร.รณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล สมาชิกวุฒิสภา นางสาวเสาวลักษณ์ ศุภกมลเสนีย์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายเอกภาพ พลซื่อ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำภาคประชาชนและเกษตรกรเข้าร่วมงาน
รมช.ประภัตร กล่าวว่า โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด มุ่งเน้นในการสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ในระดับท้องถิ่นและชุมชน เพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตภาคเกษตรหรือปรับเข้าสู่เกษตรแปลงใหญ่ และเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับบ้านหนองแก่ง ซึ่งมีสมาชิกกว่า 50 ครัวเรือน สามารถยกระดับระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ได้เป็นอย่างดี วันนี้จึงได้มาตรวจเยี่ยมดูการดำเนินงาน และยังได้นำเงินสนับสนุนงบประมาณ โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด (ด้านพืช) มามอบให้ จำนวน 3,000,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับเพิ่มศักยภาพการผลิต โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ร่วมกับการทำการเชื่อมโยงตลาดสินค้า รวมถึงการพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานสินค้า เพิ่มคุณภาพผลผลิต สามารถลดต้นทุน สร้างมูลค่าเพิ่ม เพิ่มช่องทางการตลาด และเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน
รมช.ประภัตรยังได้แนะนำ”โครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร” ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ และกำชับให้ส่วนราชการกระทรวงเกษตรฯ ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เร่งทำประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยโครงการดังกล่าวฯ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดย ธ.ก.ส จะปล่อยสินเชื่อให้เป็นทุนหมุนเวียนแก่เกษตรกร สำหรับใช้ประกอบอาชีพการเกษตรเน้นอาชีพที่มีตลาดรองรับ มีการประกันราคารับซื้อผลผลิต สามารถสร้างรายได้ในระยะสั้น 4-6 เดือน มีผลตอบแทนเบื้องต้นเพียงพอต่อการดำรงชีพ และสามารถต่อยอดเป็นอาชีพที่มั่นคงได้ ซึ่งธ.ก.ส. ได้รับการอนุมัติวงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท เริ่มจ่ายเงินแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2564 – วันที่ 31 มีนาคม 2567 ปล่อยกู้เป็นรายบุคคล หนี้เสียสามารถกู้ได้ สามารถใช้บุคคลรวม 3 คน หรือหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ โดยจะปล่อยกู้สูงสุดรายละ 100,000 บาท/1-3 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 และปีที่ 4 – 5 ดอกเบี้ยตามปกติของธนาคาร
นอกจากนี้ รมช.เกษตรฯ ยังได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด มอบถุงกำลังใจ จำนวน 500 ชุด เมล็ดพันธุ์ผัก จำนวน 300 ชุด ต้นกล้าพริก จำนวน 2000 ชุด ให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำลดลงสู่ภาวะปกติแล้ว