EXIM BANK ชี้ธุรกิจไทยต้องเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมด้านกระบวนการผลิตหรือสินค้าตามกระแสโลกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล และการดูแลรักษาสุขภาพ โดย EXIM BANK มีบริการตอบโจทย์การปรับปรุงกระบวนการผลิตและการพัฒนาสินค้า รวมถึงช่องทางการค้าออนไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุค Next Normal

ดร.พสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวเปิดงานเสวนาออนไลน์ “A Better World in the Next Normal” ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ว่า EXIM BANK มุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาของประเทศไทย ยึดมั่นในการเป็นธนาคารที่มีความรับผิดชอบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การเป็นธนาคารที่ยั่งยืน จึงพร้อมสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการโดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs ให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน เนื่องจากความยั่งยืนเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาคนและโลกในอนาคต ทั้งในแง่มุมของทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรมนุษย์ และทรัพยากรทางสังคม ภาคธุรกิจจึงต้องให้ความใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจด้วย

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ทางรอดของธุรกิจในโลกยุค Next Normal คือ การเชื่อมโยงธุรกิจและผลิตสินค้าที่สร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล และการดูแลรักษาสุขภาพของประชากรโลก (More Green, More Digital, More Health) อาทิ การดำเนินธุรกิจที่ลดการปล่อยมลพิษ การใช้แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์เป็นช่องทางส่งออกสินค้า ซึ่งคาดว่าภายในปี 2568 ประชากรของโลกจะซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์จำนวนสูงถึง 60% และการบริโภคสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารออร์แกนิก (Organic Food) อาหารจากพืชผัก (Plant-based Food) และอาหารฟังก์ชัน (Functional Food) ที่มีสารประกอบในอาหารทำหน้าที่พิเศษกว่าการให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย จะมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 10-15% ต่อปี ภายในปี 2570 ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สิ้นสุด ขณะที่รัฐบาลในหลายประเทศเริ่มกำหนดกฎระเบียบและมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศที่เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งปรับตัวทางธุรกิจให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและสอดคล้องกับกฎระเบียบ มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ และความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
ดร.รักษ์ กล่าวว่า “สมการธุรกิจโตยั่งยืน” จะเป็นสูตรสำเร็จที่ช่วยให้ธุรกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 3 ตัวแปร ได้แก่
1. การสร้างโมเดลธุรกิจโตยั่งยืน (Sustainable Business Model) โดยคำนึงทุกคนรอบข้าง โลก และผลกำไรที่ยั่งยืน (People, Planet, Profit)
2. การดำเนินธุรกิจที่สอดรับกับเทรนด์แห่งอนาคต (Future Trends) โดยการประยุกต์เทรนด์ GDH เข้ากับสินค้า บริการ และกระบวนการผลิต หรือแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อตอบสนองเทรนด์ดังกล่าว
3. พันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ EXIM BANK และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ จะช่วยเติมเต็มช่องว่างทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยได้อย่างครบวงจร โดย EXIM BANK มีบริการที่ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการปรับธุรกิจเพื่อเปลี่ยนไปสู่ความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านสินเชื่อ อาทิ EXIM Biz Transformation Loan สนับสนุนผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนเพิ่มเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและกระบวนการผลิต ขยายกำลังการผลิต รวมทั้งปรับปรุงซอฟต์แวร์ดิจิทัล อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท ผ่อนชำระนานสูงสุด 7 ปี สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อ EEC และเครือข่ายนิคมอุตสาหกรรม สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนในพื้นที่ EEC (ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง) รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรม หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3% ต่อปี ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี และบริการอื่น ๆ อาทิ เครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ และการอบรมให้ความรู้ด้านการส่งออกและการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน นอกจากนี้ EXIM BANK ยังพร้อมสนับสนุนการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจให้แข็งแรง เพื่อเตรียมความพร้อมในการปรับตัวทางธุรกิจให้ทันกระแสโลกการค้ายุคใหม่

ในงานเสวนาออนไลน์ครั้งนี้ EXIM BANK ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและบริษัทชั้นนำซึ่งประสบความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดความยั่งยืน ประกอบด้วย นายอังศุธรย์ วสุสัณห์ รองผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และชักชวนนักลงทุน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ได้แก่ นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และนางสาวลีน่า อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) นำเสนอแนวคิดและประสบการณ์ในการปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจให้สามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้สนใจทั่วไป
“ในยุค Next Normal การปรับตัวเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่ความยั่งยืนมิได้เป็นทางเลือก แต่เป็นทางรอดของทุกธุรกิจ โดย EXIM BANK พร้อมร่วมมือกับพันธมิตร รวมถึงลูกค้าผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการปรับตัวได้เร็ว เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs ให้เข้าสู่ Supply Chain ของการส่งออกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยมาตรฐานการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยตอบสนองกับกระแสโลกยุคใหม่ และเติมเต็มการพัฒนาของโลกอย่างยั่งยืน” ดร.รักษ์ กล่าว

