“เจ้าคุณเสียดายแดด” นำอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เยี่ยมชม “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์” โคก หนอง นา พช. วัดป่าศรีแสงธรรม จ.อุบลฯ

“เจ้าคุณเสียดายแดด” นำอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เยี่ยมชม “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์” โคก หนอง นา พช. วัดป่าศรีแสงธรรม จ.อุบลฯ พร้อมหนุนเป็นต้นแบบศูนย์เรียนรู้การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ด้วยโมเดลเขตเศรษฐกิจใหม่

วันที่ 14 ธันวาคม 2564 ด้วยความเมตตาจากพระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย และที่ปรึกษาโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” กรมการพัฒนาชุมชน พระนักพัฒนาผู้ให้การสนับสนุนการพัฒนาแปลง “โคก หนอง นา พระ(ธรรม)ทำ” ตามหลัก “บวร” หรือบ้าน วัด โรงเรียน ราชการ ประสานความร่วมมือกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน นำโดย ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน พร้อมคณะ ในโอกาสลงพื้นที่แปลงโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ระดับตำบล (Community Lab Model for quality of Life : CLM) “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์” วัดป่าศรีแสงธรรม บ้านดงดิบ หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

โอกาสนี้ คณะฯ ได้เยี่ยมชม ERC Sand Box งานวิจัย Smart Grid Sisaengtham Model และพูดคุยเกี่ยวกับโครงการ Solar Sharing 90 kw. พร้อม Energy Storage 500 kw. ที่กำลังจะลงมือติดตั้งเพื่อทดสอบนวัตกรรมทางด้านพลังงาน รองรับ BCG Model ให้เป็นต้นแบบของประเทศ ซึ่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะฯ ได้มาเยือนและมอบแนวทางในการขับเคลื่อนงานตามแนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ: Sufficiency Economy Development Zones) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ให้แก่กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการขับเคลื่อน และขยายผลไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี นำโดย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบหมาย อำนวยการและบัญชาให้มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเร่งด่วน และเป็นรูปธรรม โดยมีวัดป่าศรีแสงธรรม เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายและศูนย์เรียนรู้ต้นแบบในการขยายผลการดำเนินงานโครงการฯ

ด้าน พระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม ซึ่งเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงสนใจและให้ความสำคัญในศึกษาค้นคว้าการประยุกต์ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ จนได้รับฉายาและร่ำลือจากบุคคลทั่วไปอย่างแพร่หลายว่า “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์ หรือ “โคก หนอง นา พช.” ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ในพื้นที่แห่งนี้นั้น ได้รับพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ณ บริเวณโครงการ พระราชทานโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง โดยทีมช่างที่ทางวัดจ้างไว้ได้ดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จพร้อมจัดกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งทางวัดได้รับคัดเลือกให้เป็นศูนย์อบรมประชาชนเกี่ยวกับโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ของกรมการพัฒนาชุมชน ดำเนินการที่จังหวัดอุบลราชธานีจำนวน 11 รุ่น ๆ ละ 100 คน ระยะเวลาการอบรม 4 วัน 5 คืน ซึ่งกิจกรรมการอบรมคณะครูของโรงเรียนทั้งหมดจะเป็นวิทยากร และมีนักเรียนเป็นผู้ช่วยวิทยากร ในช่วงที่ไม่มีการอบรม ทางโรงเรียนก็จัดให้มีการเรียนการสอนเป็นชุมชุมฐานการเรียนรู้ 10 ฐาน และได้บูรณาการเข้าใน 8 กลุ่มสาระวิชาเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และเข้าใจมากขึ้น กระทั่งล่าสุดได้ขุดแปลงโคก หนอง นา พช. แปลงระดับตำบล (CLM) อีก 15 ไร่ ภายในวัด โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมการพัฒนาชุมชน และทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 51 อำนาจเจริญ ใช้เวลา 10 วัน และมีงบประมาณสนับสนุนจ้างแรงงานมาช่วยในแปลงอีก 8 คน เป็นเวลา 3 เดือน จนเกิดเป็นโครงการพัฒนาแบบร่วมมือกัน “บวร” คือบ้าน วัด โรงเรียน ราชการ”

“นอกจากนั้น ยังได้เปลี่ยนพื้นที่กลางป่าจำนวน 14 ไร่ ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ ด้านพลังงานทดแทน และการพึ่งพาตนเอง จนมีชื่อเสียงไปไกลถึงต่างประเทศ นักเรียนที่นี่ สามารถปลูกข้าว ทำเกษตรอินทรีย์เป็นอาหารกลางวัน สร้างบ้านดินด้วยเทคนิคเอิร์ธแบก สูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ควบคุมการเปิดปิดด้วยระบบ IOT และมีการบริหารจัดการระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงาน สมาร์ทมิเตอร์และระบบสื่อสารทางไกลไร้สาย พร้อมระบบซื้อขายไฟฟ้าแบบ Peer to Peer (P2P) ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เรียกว่า “สมาร์ทกริดศรีแสงธรรม” หรือ “ERC Sandbox” ซึ่งยังมีอีกหลายกิจกรรมที่ได้เรียนรู้จากการลงมือทำ เรียกว่าเป็น Active Learning ที่ผสมผสานระหว่างหลักสูตรแกนกลางฯ และองค์ความรู้ท้องถิ่นอย่างลงตัว เพื่อก้าวเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบในการขับเคลื่อนงานตามแนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ: Sufficiency Economy Development Zones) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ต่อไป” เจ้าคุณเสียดายแดด กล่าวปิดท้าย