สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 11 ธ.ค. 64

+ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนบางแห่งทางตอนล่างของภาค
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกน้อยถึงปานกลางในบางพื้นที่ บริเวณ จ.สุพรรณบุรี (30 มม.) จ.น่าน (14 มม.) และ จ.ชุมพร (13 มม.)
+ เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงต่อเนื่องในช่วงนี้ บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำและปากแม่น้ำบริเวณชายฝั่งจ.สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ประกอบกับอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังแรง ส่งผลให้คลื่นลมยังคงมีกำลังแรง
+ สถานการณ์น้ำท่วมขัง ยังคงมีน้ำท่วมขัง บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี รวม 2 อำเภอ 7 ตำบล 14 หมู่บ้าน 490 ครัวเรือน
+ ปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั้งประเทศทุกขนาด 38,665 ล้าน ลบ.ม. (67%) ขนาดใหญ่ 31,212 ล้าน ลบ.ม. (66%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 5 แห่ง (เขื่อนแม่กวงฯ แม่งัด ภูมิพล แม่จาง และ สิริกิติ์)
+ คุณภาพน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง บางปะกง ค่าความเค็ม อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แม่น้ำท่าจีน ปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
+ ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ กอนช. ติดตามการบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัย ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.64 นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่บริเวณประตูระบายน้ำ(ปตร.)บางไทร ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชเพื่อติดตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำ โดย โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนังล่าง กรมชลประทาน ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และปลัดอำเภอ ได้ร่วมกันกำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่รับน้ำ อ.ปากพนัง

โดย ผู้แทน โครงการส่งน้ำฯ ได้รายงานให้ทราบว่าปัจจุบันได้ใช้อาคารชลประทานขนาดกลาง ประกอบด้วย ปตร.บางไทร ปตร.บางจาก ฝายท่าพญา ปตร.สุขุม ปตร.บ่อคณฑี ปตร.เชียรใหญ่ และปตร.คลองฆ้อง เพื่อป้องกันน้ำเค็มจากแม่น้ำปากพนัง เก็บน้ำจืดและระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากหรือมีน้ำมากเกินความจำเป็น เนื่องจากพื้นที่ อ.ปากพนัง และใกล้เคียงเป็นพื้นที่รับน้ำสำคัญของ จ.นครศรีธรรมราช ที่ผ่านมาในพื้นที่ต้องประสบภาวะน้ำท่วมขังยาวนานและกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ มีระยะประมาณ 2-3 เดือนในปัจจุบัน ได้มีการแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำส่งผลให้ระยะเวลาที่น้ำท่วมขังลดลงเหลือประมาณ 1 เดือน จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เมื่อต้นเดือน ธ.ค.64 ที่ผ่านมา กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมบูรณาการความร่วมมือส่งผลให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างรวดเร็ว หากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่อีก คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่จะเข้าสู่ภาวะปกติภายในระยะเวลา 5 วัน