ดีอีเอสเตือนข่าวปลอมการ Swab ลึกถึงเพดานจมูก ทำให้เนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้ม Olfactory Nerve เสียหาย ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลประเด็นเรื่อง การ Swab ลึกถึงเพดานจมูก ทำให้เนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้ม Olfactory Nerve เสียหาย ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีการโพสต์ให้ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่า การสอดไม้ Swab เข้าไปกว้านลึกถึงเพดานจมูกสามารถสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้ม Olfactory Nerve ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและอายุขัยของมนุษย์ เนื่องจาก olfactory nerve เป็นปราการด่านหนึ่งในสองของกะโหลกศีรษะซึ่งเชื่อมระหว่างโพรงจมูกกับสมอง ที่ไวรัสและแบคทีเรียสามารถเดินทางข้าม blood-brain barrier เข้าสู่สมองได้ นอกจากนี้ olfactory nerve ยังเป็นเซลล์ชนิดเดียวในกะโหลกศีรษะที่มี stem cells เรียกว่า olfactory ensheathing cells ที่ล้อมรอบเซลล์รับกลิ่น olfactory sensory axons ส่วนที่ยื่นออกมาจากเซลล์ประสาท neuron ทำหน้าที่ส่งผ่านกระแสประสาทจากเซลล์ร่างกาย พวกมันทำหน้าที่ปกป้อง olfactory nerve และช่วยการสร้างเซลล์ใหม่เมื่อเกิดความบาดเจ็บเสียหาย (สเต็มเซลล์ชนิดนี้มีความพิเศษมากจนถูกนำไปใช้ในการซ่อมแซมไขสันหลังบาดเจ็บและรักษาโรคทางสมองหลายชนิดในการแพทย์ปัจจุบันอย่างประสบความสำเร็จ)

ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวและชี้แจงว่า การสอดไม้เข้าไปในจมูกมีโอกาสขึ้นไปที่ตำแหน่งของเส้นประสาทรับกลิ่นได้จริง แต่ไม่สร้างความเสียหายต่อเส้นประสาทมากอย่างที่กังวล ปัจจุบันก็ยังไม่พบหลักฐานว่าการสวอปทำให้เส้นประสาทรับกลิ่นเสียหายจนสูญเสียการรับกลิ่น อย่างไรก็ตามการสวอปควรทำให้ถูกวิธีโดยการแหย่เข้าไปตามแนวของพื้นจมูกเพื่อให้เข้าไปยังบริเวณโพรงหลังจมูกซึ่งมีโอกาสเจอเชื้อโรคได้มาก ซึ่งจะไม่โดนตำแหน่งของเส้นประสาทนี้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังที่สำคัญคือในกรณีที่คนไข้เคยได้รับการผ่าตัดเกี่ยวกับฐานสมอง หรือเคยผ่าตัดซ่อมฐานสมองมาก่อน อาจจะไม่มีกระดูกคอยป้องกันเหมือนกับคนที่ยังไม่เคยผ่าตัด ดังนั้นควรให้แพทย์หูคอจมูกหรือแพทย์ที่ชำนาญเป็นผู้ทำการสวอปเอง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆโดยประชาชนสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87