วันที่ 6 ธันวาคม 2564 ภายใต้การอำนวยการของ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี โดย นางสาววิจิตร หลงชิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทน พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นักวิชาการพัฒนาชุมชน ในสังกัดสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฯ ลงพื้นที่เพื่อพบปะเยี่ยมเยียน ผู้เข้าอบรมแกนนำขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ตามโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ปี 2565 ซึ่งอบรมในรูปแบบออนไลน์ ผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting และดำเนินการโดยศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนเป็นแม่ข่ายในการถ่ายทอด ณ ศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้รับความเมตตาจาก พระพิพัฒน์วชิโรภาส ผู้อำนวยการศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้การสนับสนุนในการฝึกอบรม และการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ตามหลัก “บวร” หรือบ้าน วัด โรงเรียน ราชการ
สำหรับการฝึกอบรมแกนนำขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ตามโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ปี 2565 ในครั้งนี้ เป็นจุดดำเนินการที่ 4 และ 5 โดยมีกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 47 คน จากอำเภอเขื่องใน อำเภอม่วงสามสิบ และอำเภอวารินชำราบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดผู้นำการพัฒนา (Change Leader) ที่อยู่ในชุมชน และนำการพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทชุมชน และนำไปสู่สิ่งที่ชุมชนต้องการต่อไป
จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับงบประมาณจาก กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ดำเนินโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งสิ้น 111 หมู่บ้าน และมีกลุ่มเป้าหมายแกนนำที่เข้ารับการอบรมแกนนำขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งสิ้น 240 คน แยกเป็น ผู้แทนครัวเรือนพัฒนาพื้นที่เรียนรู้ หมู่บ้านละ 1 คน ผู้นำชุมชนหมู่บ้านเป้าหมาย หมู่บ้านละ 1 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนผู้รับผิดชอบ จำนวน 18 อำเภอ ๆ ละ 1 คน ดำเนินการ 12 จุดดำเนินการ จุดละ 5 วัน ระหว่างวันที่ 6-10 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ ได้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด
โอกาสนี้ นางสาววิจิตร หลงชิน รักษาราชการแทน พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี ได้พบปะกับผู้เข้ารับการฝึกอบรมว่า “โครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ปี 2565 นั้น ถือเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ซึ่งจะต้องอาศัยทุกท่านเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการฯ โดยใช้พื้นที่ในหมู่บ้านหรือชุมชนของท่าน พัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ซึ่งโครงการนี้จะช่วยแก้เเล้งเก็บฝน เก็บน้ำในฤดูฝนไว้ใช้ในหน้าแล้ง มีพื้นที่ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ เกิดการสร้างความมั่นคงทางอาหาร และจะมีผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจที่ดี มุ่งมั่นสานต่อศาสตร์พระราชา และแนวพระราชดำริ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนชาวไทย ขอเป็นกำลังใจเเละขอให้ทุกท่านโชคดี”
จากนั้น คณะจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี ได้ติดตามและตรวจเยี่ยม การติดตั้งเครื่องครุภัณฑ์ ณ แปลงโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ศูนย์เรียนรู้ระดับตำบล (Community Lab Model for quality of Life : CLM) ของศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ อำเภอเขื่องใน ซึ่งมี หจก.ชินบัญชา ได้รับผิดชอบดำเนินการติดตั้ง เครื่อง Solar off Grid และเครื่องคั่วกาแฟ ตามโครงการฯ โดย พระพิพัฒน์วชิโรภาส ผู้อำนวยการศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เมตตาร่วมติดตามการติดตั้งของครุภัณฑ์ และนำชมสถานที่ดำเนินกิจกรรมฯ ซึ่งพระพิพัฒน์วชิโรภาส ได้ให้ข้อมูลว่า “โคก หนอง นา วังอ้อ โมเดล” แห่งนี้ เป็นศูนย์ฝึกอบรมประชาชนที่พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นได้ว่า “โคก หนอง นา” สามารถแก้แล้ง แก้ท่วมได้อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้ง ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมคุณธรรมจริยธรรม ศาสตร์พระราชา และแนวพระราชดำริ ด้านอนุรักษ์ดิน น้ำ ป่า การพัฒนา การบริหาร และเศรษฐกิจพอเพียง ของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นความมั่นคงทางยาและอาหาร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยความร่วมมือของ (บวร) บ้าน วัด โรงเรียน ราชการ และถือเป็นโมเดลการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพอเพียงอีกแห่งหนึ่งของประเทศด้วย”