วันที่ 1 ธันวาคม 2564 นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี โดย นางกนกอร โพธิ์สิงห์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี นางรัชดาวรรณ คำเอี่ยม พัฒนาการอำเภอสว่างวีระวงศ์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ ร่วมกิจกรรมโฮมบุญ คูณข้าว ชาวโคก หนอง นาโมเดล ณ สวนเพียรเรียนรู้ ของนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี วัย 61 ปี ณ บ้านห้วยขาม หมู่ที่ 9 ตำบลแก่งโดม อำเภอสว่างวีระวงศ์จังหวัดอุบลราชธานี
โดยมี นายสมชาติ พงคพนาไกร ประธานหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายมงคล จุลทัศน์ ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ส่วนราชการและภาคเอกชนในจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวและนวดข้าว ก่อนพิธีสู่ขวัญข้าว โดยหลังจากกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าว ไถกลบตอซังข้าว ฝากข้าว เก็บข้าวขึ้นลาน และสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารแล้วยังเปิดโอกาสให้ผู้มีเกียรติประมูลนำเงินที่ได้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อีกด้วย
สำหรับประเพณีบายศรีสู่ขวัญข้าวมาจากฮีต 12 คอง 14 หรือจารีตประเพณี ทั้ง 12 เดือน ซึ่งชาวไทยอีสานคือ นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยในประเพณีบายศรีสู่ขวัญข้าวในบางท้องถิ่นจะเรียกว่า บุญคูณลาน (แถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), บุญกองข้าว (แถบภาคตะวันออก) การทำบายศรีสู่ขวัญข้าว ก่อนนำข้าวเข้ายุ้งฉางเพื่อเก็บไว้บริโภคและค้าขายต่อไป เป็นพิธีที่เชื่อกันว่าจะทำให้ชาวนาได้ผลผลิตข้าวอุดมสมบูรณ์ตลอดไป และถือว่าเป็นประเพณีของเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพทำนา
โดยก่อนที่จะมีการจะนำข้าวที่นวดแล้วไปเก็บที่ยุ้งฉาง จะมีการทำบุญนิมนต์พระสงฆ์มาสวดเพื่อให้เกิดความเป็นศิริมงคล และเพื่อเป็นการบูชาพระแม่โพสพที่หล่อเลี้ยงมวลมนุษยชาติ และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาวนาผู้ปลูกข้าว ซึ่งจะกระทำในช่วงหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวของทุกปี รวมถึงเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมขนบธรรมเนียม ประเพณีบายศรีสู่ขวัญข้าวในจังหวัดอุบลราชธานี และชาวอีสานให้คงอยู่สืบไป