มท.2 เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 12​ (The 12th AMRDPE)

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เวลา​ 09.00​-12.00 น.​ ณ ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์​ กระทรวงมหาดไทย​ นายทรงศักดิ์​ ทองศรี​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย​ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทย​ เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 12 (The 12th ASEAN Ministers Meeting on Rural Development and Poverty Eradication : The 12th AMRDPE) ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ทำหน้าที่เป็นประธานและเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ภายใต้แนวคิดหลัก (Theme) ของการประชุม คือ “เร่งรัดการฟื้นฟูและการสร้างภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งของอาเซียนสำหรับการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนอย่างยั่งยืน (Accelerating Recovery and Strengthening Resiliency of ASEAN for Sustainable Rural Development and Poverty Eradication)” ซึ่งการประชุมดังกล่าวเป็นเป็นหนึ่งในภารกิจการดำเนินงานของกองการต่างประเทศ​ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

สำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 12 (The 12th ASEAN Ministers Meeting on Rural Development and Poverty Eradication : The 12th AMRDPE) ในวันนี้​ เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนจากหน่วยประสานงานหลักอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน​ (SOMRDPE Focal Point) ทั้ง​ 10 ประเทศ​ ได้แก่​ บรูไนดารุสซาราม​ ราชอาณาจักรกัมพูชา​ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์​ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตย​ประชาชนลาว​ มาเลเซีย​ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา​ สาธารณรัฐสิงคโปร์​ ราชอาณาจักรไทย​ และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม​ เพื่อเข้าร่วมรับทราบ​และติดตามผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการจากการประชุมคราวก่อน​ (The 11th AMRDPE เมื่อปี พ.​ศ.​ 2562 ณ​ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา)​ และการประชุมรัฐมนตรีวาระพิเศษเพื่อการดำเนินงานในช่วงสถานการณ์​โควิด-19​ ตลอดจนรับรองต่อเอกสาร​ วาระการดำเนินงาน​ วิสัยทัศน์​และเป้าประสงค์ และข้อริเริ่มที่ได้จากการประชุมฯ​ รวมทั้งการให้ข้อสั่งการและกำหนดทิศทางเชิงนโยบายสำหรับการดำเนินงานในระยะต่อไป​ ทั้งนี้​ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือสำหรับความก้าวหน้าในภารกิจด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและขจัดความยากจนในภูมิภาคอาเซียน​

ในการนี้​ นายทรงศักดิ์​ ทองศรี​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย​ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทย​ ได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงของทางการไทยในที่ประชุม​ว่า​ ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานในหลายมิติเพื่อส่งเสริมการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนอย่างต่อเนื่อง​ ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศที่กำหนดให้​ “ประเทศไทยมีความมั่นคง​ มั่งคั่ง​ ยั่งยืน​ เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง​ และสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ​ ทั้งนี้​ การดำเนินงานที่ประเทศไทยให้ความสำคัญ และกำลังขับเคลื่อนอยู่ในปัจจุบัน​ก็คือ​ การแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน​ โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง​ (ศจพ.)​ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน​ และได้มีการจัดตั้งกลไกของศูนย์ฯ​ ทั้งในระดับจังหวัด​ อำเภอ​ ตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น​ จุดเด่นสำหรับแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานของศูนย์ฯ​ ได้แก่​

1.การชี้เป้าคนยากจนเป้าหมาย​ ซึ่งได้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาความยากจนด้วยการออกแบบแพลตฟอร์มเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลขนาดใหญ่​ ผ่านข้อมูลใน 5 มิติ​ ประกอบด้วย​ ข้อมูลด้านรายได้​ สุขภาพ​การศึกษา​ความเป็นอยู่​ และการเข้าถึงบริการภาครัฐ​

2.การแก้ไขปัญหาที่ลงลึกถึงรายครัวเรือนผ่านทีมพี่เลี้ยง​ ซึ่งประกอบด้วย​ ข้าราชการ​ นักศึกษา​ ผู้นำชุมชน​ และอาสาสมัคร​ ที่จะดูแล​และติดตาม​การแก้ไขปัญหาให้กับครัวเรือนยากจนอย่างใกล้ชิด

นายทรงศักดิ์​ ทองศรี​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย​ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทย​ กล่าวเพิ่มเติมว่า การขจัดความยากจนจะเกิดความยั่งยืนได้นั้น​ การพัฒนาศักยภาพของคน​ และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเป็นปัจจัยสำคัญที่จะตอบโจทย์ความยั่งยืน​ ซึ่งประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว​ ทั้งนี้​ โครงการที่ประสบความสำเร็จของประเทศไทยในการเสริมสร้างและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก​ ได้แก่​

1.หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง​

2.โครงการหนึ่งตำบล​ หนึ่งผลิตภัณฑ์​

3.การส่งเสริมให้จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต​ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในท้องถิ่นที่ส่งเสริมแปรรูปจากการเกษตรสู่ผลิตภัณฑ์​ชุมชน​

4.การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิ​จพอเพียงและทฤษฎีใหม่สู่โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต​ “โคก​ หนอง​นา”

ซึ่งโครงการเหล่านี้ต่างมุ่งเน้นการพัฒนาจากภายใน​ เพื่อให้คนและชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้​ เกิดความยั่งยืน​ ซึ่งประเทศไทยมีการตั้งเป้าหมายที่จะขยายผลการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากสู่เขตเศรษฐกิจพอเพียง​ เพื่อขจัดความยากจน​ ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้​ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน​ และเสริมสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ​ สังคม​ และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ทั่วประเทศ