กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี 2561 ตามนโยบายรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมี พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายโสภณ ทองดี โฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากการพัฒนาของประเทศในด้านต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เช่น การทำการประมง อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การพัฒนาแหล่งชุมชนและอื่นๆ ทำให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างมาก ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบต่อความเสื่อมโทรมของทรัพยากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการใช้ที่ดินชายฝั่งทะเลมากจนเกิดความขัดแย้งในการใช้ประโยชน์ และมีการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอย่างรุนแรง พื้นที่ป่าชายเลนลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการบุกรุกและเปลี่ยนแปลงสภาพเพื่อประโยชน์ในด้านอื่นๆ รวมถึงปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ลดลงเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสภาพแวดล้อมของแหล่งน้ำเสื่อมโทรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำ
โดยใน ปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลด้านการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งมีผลการดำเนินงาน ดังนี้
- การบริหารจัดการพื้นที่ป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีพื้นที่ป่าชายเลนที่อยู่ในความรับผิดชอบ ประมาณ 2.86 ล้านไร่ มีการบริหารจัดการ ดังนี้ การดำเนินการทวงคืนผืนป่าชายเลน จำนวน 219 คดี เป็นพื้นที่รวม 8,813.08 ไร่ การฟื้นฟูและปลูกป่าในพื้นที่ป่าชายเลน เป็นพื้นที่รวม 5,416 ไร่ การจัดการปัญหาที่ดินทำกิน/ที่อยู่อาศัย โครงการจัดที่ดินทำกินให้แก่ชุมชน 252 แห่ง เป็นพื้นที่รวม 1,972 ไร่ การกำหนดและประกาศเขตพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ตามมาตรา ๑๘ และกำหนดมาตรการคุ้มครองตามมาตรา ๒๓ โดยดำเนินการจัดทำร่างกฎกระทรวงกำหนดพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ จำนวน 6 พื้นที่ และ โครงการป่าในเมือง “สวนป่าประชารัฐ เพื่อความสุขของคนไทย” ทั้งหมด 20 โครงการ ครอบคลุม 16 จังหวัดชายฝั่งทะเล ปัจจุบันได้เปิดโครงการป่าในเมืองไปแล้ว 18 โครงการ ใน 14 จังหวัด
- การบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งทะเล พื้นที่ที่เกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เป็นระยะทางทั้งสิ้น 704.44 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 22.35 ของชายฝั่งทะเลไทย ดำเนินการแก้ไขแล้ว 558.71 กิโลเมตร
- พื้นที่คุ้มครองทางทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีแผนการประกาศพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จำนวน 13 พื้นที่ ใน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตรัง ระยอง ตราด พังงา ภูเก็ต ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ปัตตานี และนครศรีธรรมราช
- การบริหารจัดการขยะทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนิน “โครงการบริหารจัดการขยะทะเล” เพื่อสอดรับกับแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ (พ.ศ. 2559 – 2564) ดังนี้ โครงการชายหาดปลอดบุหรี่ นำร่อง 24 แห่ง ในพื้นที่ 15 จังหวัดชายฝั่งทะเล สามารถเก็บจำนวนก้นบุหรี่ที่เก็บจากจุดสูบบุหรี่จำนวน 2.9 ล้านชิ้น (ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 –15 ธันวาคม 2561) การดำเนินมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พื้นที่เกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ระงับการกระทำ หรือกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง การเก็บขยะชายหาดสากล ในพื้นที่รับผิดชอบ 24 จังหวัด มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 10,076 คน สามารถเก็บรวบรวมขยะได้ทั้งสิ้น 253,889 ชิ้น น้ำหนักรวม 16,082 กิโลกรัม และการจัดทำมาตรการลดปริมาณขยะทะเล โดยดำเนินการกับกลุ่มที่คาดว่าเป็นแหล่งกำเนิดขยะทะเล ได้แก่ กลุ่มเรือประมงพาณิชย์ เรือประมงพื้นบ้าน ชุมชนชายฝั่ง และผู้ประกอบการแหล่งท่องเที่ยว/นักท่องเที่ยว
- การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กร ดังนี้ 1) พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 ได้ดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองตาม พ.ร.บ. ทช. จำนวน 15 ฉบับ และอยู่ระหว่างการจัดทำเพิ่มเติม อีกจำนวน 10 ฉบับ 2) การส่งเสริมการมีส่วนร่วม (อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล/เครือข่ายชุมชน) มีการจัดตั้งเครือข่าย จำนวน 11,412 คน และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.) จำนวน 11,782 คน และ 3) การจัดตั้งศาลาพิทักษ์ทะเล เพื่อคุ้มครอง เฝ้าระวังทรัพยากรทางทะเล จำนวน 26 แห่ง ใน 24 จังหวัด
- สัตว์ทะเลหายาก ดำเนินการสำรวจประเมินสถานภาพสัตว์ทะเลหายาก พบการวางไข่ของเต่าทะเล จำนวน 333 หลุม โลมาและวาฬในธรรมชาติ จำนวน 699 ตัว พะยูน จำนวน 200 ตัว ปลาฉลามวาฬ จำนวน 13 ตัว การดำเนินการช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นของประเทศไทย พบว่ามีอัตราการรอดชีวิตของสัตว์ทะเลหายากหลังการช่วยชีวิต จากจำนวนสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นมีชีวิตทั้งหมด 236 ตัว คิดเป็นสัตว์ทะเลที่รอดชีวิต (ปล่อยคืนสู่ทะเล + อยู่ในระหว่างการพักฟื้น) มีจำนวน 206 ตัว คิดเป็นร้อยละ 86.90 สัตว์ทะเลหายากเกยตื้นที่ได้รับผลกระทบจากขยะทะเล มีทั้งหมด 129 ตัว ผลการอนุบาลและเพาะขยายพันธุ์สัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ ได้อนุบาลเต่าทะเลเพื่อฟื้นฟูโดยการปล่อยคืนกลับสู่ธรรมชาติได้ ทั้งหมด 855 ตัว