วันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการพลังงานทดแทน และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ณ วัดป่าศรีแสงธรรม บ้านดงดิบ หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้รับความเมตตาจากพระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม และที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้นำเสนอข้อมูลและนำเยี่ยมชมพื้นที่แปลง “โคก หนอง นา พช.” หรือ “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์” ทั้งนี้ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบหมายให้ นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด นายวินิจ เทพนิต นายอำเภอโขงเจียม และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับและนำเสนอผลการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง
โอกาสนี้ พระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม และที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เปิดเผยถึงการดำเนินงานในแปลง “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์ หรือ “โคก หนอง นา พช.” ในพื้นที่แห่งนี้นั้น ได้รับพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ณ บริเวณโครงการ พระราชทานโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง โดยทีมช่างที่ทางวัดจ้างไว้ได้ดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จพร้อมจัดกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งทางวัดได้รับคัดเลือกให้เป็นศูนย์อบรมประชาชนเกี่ยวกับโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ของกรมการพัฒนาชุมชน ดำเนินการที่จังหวัดอุบลราชธานีจำนวน 11 รุ่น ๆ ละ 100 คน ระยะเวลาการอบรม 4 วัน 5 คืน ซึ่งกิจกรรมการอบรมคณะครูของโรงเรียนทั้งหมดจะเป็นวิทยากร และมีนักเรียนเป็นผู้ช่วยวิทยากร ในช่วงที่ไม่มีการอบรม ทางโรงเรียนก็จัดให้มีการเรียนการสอนเป็นชุมชุมฐานการเรียนรู้ 10 ฐาน และได้บูรณาการเข้าใน 8 กลุ่มสาระวิชาเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และเข้าใจมากขึ้น กระทั่งล่าสุดได้ขุดแปลงโคก หนอง นา พช. แปลงระดับตำบล (CLM) อีก 15 ไร่ ภายในวัด โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมการพัฒนาชุมชน และทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 51 อำนาจเจริญ ใช้เวลา 10 วัน และมีงบประมาณสนับสนุนจ้างแรงงานมาช่วยในแปลงอีก 8 คน เป็นเวลา 3 เดือน จนเกิดเป็นโครงการพัฒนาแบบร่วมมือกัน “บวร” คือบ้าน วัด โรงเรียน ราชการ นอกจากนั้น ยังได้เปลี่ยนพื้นที่กลางป่าจำนวน 14 ไร่ ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ ด้านพลังงานทดแทน และการพึ่งพาตนเอง จนมีชื่อเสียงไปไกลถึงต่างประเทศ นักเรียนที่นี่ สามารถปลูกข้าว ทำเกษตรอินทรีย์เป็นอาหารกลางวัน สร้างบ้านดินด้วยเทคนิคเอิร์ธแบก สูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ควบคุมการเปิดปิดด้วยระบบ IOT และมีการบริหารจัดการระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงาน สมาร์ทมิเตอร์และระบบสื่อสารทางไกลไร้สาย พร้อมระบบซื้อขายไฟฟ้าแบบ Peer to Peer (P2P) ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เรียกว่า “สมาร์ทกริดศรีแสงธรรม” หรือ “ERC Sandbox” ซึ่งยังมีอีกหลายกิจกรรมที่ได้เรียนรู้จากการลงมือทำ เรียกว่าเป็น Active Learning ที่ผสมผสานระหว่างหลักสูตรแกนกลางฯ และองค์ความรู้ท้องถิ่นอย่างลงตัว
ด้าน นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้เปิดเผยว่า วัดป่าศรีแสงธรรม แห่งนี้ เป็นจุดที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะฯ ได้มาเยือนและมอบแนวทางในการขับเคลื่อนงานตามแนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ: Sufficiency Economy Development Zones) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ให้แก่กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการขับเคลื่อน และขยายผลไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี นำโดย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบหมาย อำนวยการและบัญชาให้มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเร่งด่วน และเป็นรูปธรรม โดยมีวัดป่าศรีแสงธรรม เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายและศูนย์เรียนรู้ต้นแบบในการขยายผลการดำเนินงานโครงการฯ ซึ่งในขณะนี้ มีประชาชนผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ได้แจ้งความประสงค์ในการออกแบบพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการขับเคลื่อนแนวทางเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ จำนวนมากกว่า 5 ร้อยราย และพื้นที่มากกว่า 5 พันไร่ (ข้อมูลวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564) และอยู่ระหว่างการดำเนินการลงพื้นที่สำรวจข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน ซึ่งมีทั้งความต้องการออกแบบ และเข้าร่วมโครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” และการขุดคลองไส้ไก่ ขุดลอกคลองสาธารณะ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้ง รวมถึงวัสดุอื่นๆ ที่จำเป็นในการประกอบอาชีพทางการเกษตร เช่น แท้งค์น้ำ ชุดสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าเซลล์) พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ เป็นต้น ตามแนวทางและแบบฟอร์มที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด โดยจังหวัดฯ จะนำข้อมูลความต้องการ ดังกล่าว เพื่อไปเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ระดับจังหวัด และคัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย/พื้นที่ปฏิบัติการที่เหมาะสมกับสภาพปัญหา สภาพภูมิสังคม เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยมอบหมายให้นายอำเภอ พัฒนาการอำเภอ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชน สมัครเข้าร่วมโครงการขับเคลื่อนแนวทางเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่เป็นการเร่งด่วน และโดยเร็วที่สุด
ขณะที่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ได้เยี่ยมชมการดำเนินงานโครงการพลังงานทดแทนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ซึ่งเป็นการต่อยอดและขยายผลการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงชื่นชมการขานรับการดำเนินงานของรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนโครงการขับเคลื่อนแนวทางเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งสอดรับกับการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ขอให้จังหวัดอุบลราชธานีได้ประชาสัมพันธ์โครงการ “สานฝันสร้างอาชีพ และยกระดับรายได้เกษตรกร” ซึ่งเป็นโครงการที่กรมปศุสัตว์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ทำร่วมกัน เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยจะสนับสนุนเงินกู้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับเกษตรกร เพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพในกิจกรรมที่ตลาดรองรับชัดเจน มีการประกันราคา รับซื้อผลผลิต รอบการผลิตระยะเวลาสั้น สามารถสร้างรายได้ในระยะเวลา 6 เดือน มีผลตอบแทนเบื้องต้นเพียงพอต่อการดำรงชีพ และสามารถต่อยอดเป็นอาชีพที่มั่นคงต่อไปได้ในอนาคต ในกรณีที่ใช้เป็นเงินลงทุน 3 ปีแรก ดอกเบี้ยร้อยละ 4-5 ตามปกติของธนาคาร และสามารถใช้บุคคลค้ำประกันหรือสินทรัพย์ค้ำประกันได้ ซึ่งเกษตรที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดโครงการได้ที่ ธ.ก.ส.หรือเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ต่อไป