+ ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.น่าน (54 มม.) จ.สตูล (54 มม.) จ.สงขลา (51 มม.)
+ พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และ นราธิวาส
+ ปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั้งประเทศทุกขนาด 39,166 ล้าน ลบ.ม. (68%) ขนาดใหญ่ 31,596 ล้าน ลบ.ม. (66%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 5 แห่ง (เขื่อนแม่กวงฯ แม่งัด ภูมิพล แม่จาง และ สิริกิติ์)
+ คุณภาพน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง บางปะกง ค่าความเค็ม อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนท่าจีน ปริมาณออกซิเจนละลายน้ำต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
+ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 64 นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการ สทนช. ในฐานะเลขานุการ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ประธานการประชุมคณะทำงานด้านอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงภาคใต้ ครั้งที่ 2/2564 ร่วมกับ พลเรือโท ธนพล วิชัยลักขณา ประธานอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคใต้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำหลากในพื้นที่ภาคใต้ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จ.ยะลา
ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ กอนช. ได้ติดตามและคาดการณ์สภาพอากาศในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าในช่วงวันที่ 28 พ.ย.–ต้นเดือน ธ.ค. 64 จะมีฝนตกหนักมากในพื้นที่ดังกล่าว อาจส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำหลากและส่งผลกระทบกับประชาชนได้ ขณะเดียวกัน ยังต้องติดตามเฝ้าระวังคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยที่จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ กอนช. และ ศอ.บต. ที่จะบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลการบริหารจัดการน้ำ การเตรียมพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ และแผนการรับมือ รวมทั้งปรับแผนการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่คาดว่ามีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯโดยเฉพาะเขื่อนบางลางและเขื่อนปัตตานีให้สอดคล้องกับปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำล้นทางระบายน้ำส่งผลกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ