จุรินทร์ รองนายกฯ ประธานมอบทะเบียนบ้านริมคลองเปรมประชากร “บ้านสวย คลองใส วิถีใหม่ ชุมชนริมคลอง” จำนวน 176 หลัง พร้อมเดินหน้าแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี ตั้งเป้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยให้คนจนครบ 1 ล้านหลังภายในปี 2579
การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาตามแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลอง และการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 โดยมีกรอบแนวคิดในการดำเนินงาน 4 ด้าน คือ
1) ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อมของเมือง อาทิเช่น การสร้างเขื่อนริมคลองและระบบรวบรวมน้ำเสีย
2) ด้านการพัฒนาชุมชนริมคลอง ซึ่งมีเป้าหมายที่การพัฒนาที่อยู่อาศัยของทุกครัวเรือนที่อยู่ริมคลอง
3) ด้านการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน
4) ด้านกฏหมายและการขับเคลื่อนงาน ในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากรมีกลุ่มเป้าหมายในเขตกรุงเทพมหานคร 3 เขต คือ ดอนเมือง หลักสี่ และจตุจักร จำนวน 32 ชุมชน และพื้นที่เทศบาลตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี 6 หมู่บ้าน ระยะความยาวคลองประมาณ 17 กิโลเมตร จากความยาวทั้งหมด 50.8 กิโลเมตร จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 6,386 ครัวเรือน
โดยจะมีการรื้อย้ายชุมชนที่รุกล้ำลำคลองซึ่งเป็นที่ดินราชพัสดุ เพื่อก่อสร้างเขื่อนระบายน้ำโดยกรุงเทพมหานคร และกรมโยธาธิการและผังเมือง โดย พอช.สนับสนุนด้านที่อยู่อาศัย เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 สร้างบ้านชุมชนแรกในคลองเปรมฯ ที่ชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จจำนวน 176 หลัง โดยมีประชาชนเข้าอยู่อาศัยแล้วครบทุกหลังคาเรือน
ล่าสุดวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางมาเป็นประธานมอบทะเบียนบ้านให้กับพี่น้องชุมชนประชาร่วมใจ2 ‘บ้านสวย คลองใส วิถีใหม่ ชุมชนริมคลอง’ พร้อมด้วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นต.สุธรรม ระหงษ์ ผู้บริหาร กระทรวง พม. และผู้บริหารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายปฏิภาณ จุมผา รักษาการผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) ผู้แทนสำนักงานเขตจตุจักร เครือข่ายพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมคูคลอง และชาวชุมชนกว่า 200 คนให้การต้อนรับ ณ ชุมชนประชาร่วมใจ2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
รองนายกฯ และคณะได้ลงเรือติดตามตรวจเยี่ยมการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร รวมระยะทางประมาณ 1,800 เมตร จากท่าเรือวัดเสมียนนารี ผ่านชุมชนประชาร่วมใจ 1 และชุมชนประชาร่วมใจ 2 เดินเยี่ยมชมบ้านมั่นคง พบปะพี่น้องประชาชนก่อนมอบทะเบียนบ้านมั่นคงชุมชนริมคลองเปรมประชากร รวม 176 ครัวเรือน และมอบถุงน้ำใจให้ประชาชน จำนวน 200 ชุด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นเรื่องน่ายินดีที่ชุมชนประชาร่วมใจ 2 ที่สร้างบ้านเสร็จไปแล้ว 176 หลัง ทางชุมชนต้องช่วยกันดูแลรักษาบ้าน รักษาชุมชนให้สะอาด ต่อไปจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนริมคลอง ทำให้ชุมชนมีอาชีพรองรับที่มั่นคง เปลี่ยนจากผู้ที่บุกรุกเป็นผู้อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุน เพราะรัฐบาลมีนโยบายให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัย และจะพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนต่อไปตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ประชาชนจะต้องช่วยกันดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม ทำบ้านเรือนให้สะอาด ดูแลคลองให้สวย น้ำใส คูคลองสะอาด ปรับปรุงบ้านให้มีหน้าบ้านทั้ง 2 ด้าน ทั้งหน้าบ้านริมคลองและหน้าบ้านริมถนน ต่อไปในอนาคตจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนของกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้รัฐบาลมีแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) โดยมอบหมายให้หน่วยงานในกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ รับผิดชอบประมาณ 3 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็น
1.การเคหะแห่งชาติ จัดทำที่อยู่อาศัยในลักษณะเช่า-ซื้อ ให้แก่ประชาชนทั่วไปประมาณ 2 ล้านครัวเรือน
2.สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ จัดทำแผนงานรองรับที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ เช่น โครงการบ้านมั่นคงเมืองและชนบท บ้านพอเพียง ที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากร และคนไร้บ้าน ประมาณ 1 ล้านครัวเรือน
นางสมร จันทร์ฉุน ประธานสหกรณ์เคหสถานประชาร่วมใจ 2 จำกัด ให้ข้อมูลว่า ชุมชนประชาร่วมใจ 2 อยู่กันมามากกว่า 80 ปี ดำเนินชีวิตแบบหาเช้ากินค่ำ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ลักษณะจะปลูกสร้างแบบพออยู่พอกินตามฐานะของแต่ละครอบครัว ซึ่งมีความทรุดโทรมไม่แข็งแรง ไม่มีความปลอดภัยในการอยู่อาศัย เมื่อมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเข้ามา ชาวบ้านจึงยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการพัฒนาไปพร้อมกัน ประกอบกับเป็นโครงการที่รัฐบาลให้การสนับสนุนทั้งเรื่องงบประมาณและการอำนวยความสะดวกในการรื้อย้าย ชาวบ้านจึงรวมตัวกันเพื่อเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงชุมชนริมคลองของ พอช. โดยรวมตัวเป็นกลุ่มออมทรัพย์และจัดตั้งเป็นสหกรณ์แล้ว ในชื่อ สหกรณ์เคหสถานประชาร่วมใจ 2 จำกัด ชาวบ้านเห็นว่าโครงการนี้จะเป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชน ทั้งในด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น และชุมชนมั่นใจว่าโครงการจะสามารถพัฒนาได้สำเร็จ จนเป็นที่ยอมรับของชุมชนข้างเคียง และดีใจที่จะเป็นชุมชนแรกของคลองเปรมประชากรในการพัฒนาและคาดหวังว่าจะเป็นต้นแบบการพัฒนาให้กับชุมชนอื่น ๆ ริมคลองเปรมประชากรต่อไป
นายปฏิภาณ จุมผา รักษาการผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ พอช. ได้กล่าวว่าพอช. ได้กำหนดแผนดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัย 4 ปี ตั้งแต่ปี 2562 – 2565 โดยใช้รูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวทางโครงการบ้านมั่นคง ลักษณะเดียวกันกับการดำเนินโครงการที่คลองลาดพร้าว ซึ่งให้ชุมชนเป็นแกนหลักในการดำเนินโครงการ การดำเนินงานพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากรระยะต่อไป พอช.มีแผนดำเนินการในอีกหลายชุมชน ในเขตจตุจักร เขตหลักสี่ และเขตดอนเมือง โดยเป็นการรื้อย้ายบ้านเดิมและสร้างบ้านมั่นคงใหม่ พร้อมกับการก่อสร้างเขื่อนของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อครบระยะเวลาตามแผนโครงการ ประชาชนริมคลองตลอดระยะทาง 17 กิโลเมตร จะมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง มีบ้านที่สวยงาม สภาพแวดล้อมที่ดี และมีคลองที่สามารถระบายน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงการบริการสาธารณะได้สะดวกมากขึ้นจากการเชื่อมต่อระบบรถ ราง เรือ เปลี่ยนจากชุมชนริมคลองเดิมที่สภาพไม่เอื้อต่อการอยู่อาศัยและพัฒนามาเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง สังคมที่น่าอยู่ต่อไเพื่อให้บ้านใหม่ที่จะสร้างขึ้นมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการอยู่อาศัย เปลี่ยนแปลงจากผู้บุกรุกมาเป็นผู้อยู่อาศัยที่ถูกต้องตามกฎหมาย และช่วยให้การดูแลรักษาสภาพแวดล้อมของคลองเปรมประชากรคลองเป็นไปได้อย่างยั่งยืน
สำหรับความคืบหน้าในการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร ณ พฤศจิกายน 2564 สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยได้ 5 ชุมชน รวม 764 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 11.96 ของเป้าหมายทั้งหมด จำแนกเป็น บ้านที่ก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ 196 ครัวเรือนที่ชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร บ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 254 ครัวเรือนที่ชุมชนประชาร่วมใจ 1 เขตจตุจักรบ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 218 ครัวเรือนที่หมู่ 7 ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานีบ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 17 ครัวเรือนที่ชุมชนศิษย์หลวงปู่ขาว เขตหลักสี่ พื้นที่รื้อย้ายเตรียมการก่อสร้าง 79 ครัวเรือนในเขตหลักสี่และเขตจตุจักร และมีแผนการรื้อย้ายบ้านเดิมและก่อสร้างบ้านใหม่พร้อมไปกับการก่อสร้างเขื่อนของกรุงเทพมหานครในเขตหลักสี่และดอนเมือง ปี 2565 รวม 17 ชุมชน
ในส่วนชุมชนริมคลองลาดพร้าว ดำเนินงาน จำนวน 35 ชุมชน ( 41โครงการ) รวม 3,536 ครัวเรือน จำแนกเป็น 1.ก่อสร้างแล้วเสร็จ รวม 3,065 ครัวเรือน 2.อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 194 ครัวเรือน และ 3.พื้นที่พร้อมก่อสร้าง 277 ครัวเรือน