รมช.ศธ.ติดตามนวัตกรรมต้นแบบ “เรือเก็บผักตบชวา” ของวิทยาลัยฯ การต่อเรือพระนครศรีอยุธยา แก้ไขปัญหาน้ำเสีย

พล.อ.สุรเชษฐ์​ ชัย​วงศ์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการ​กระทรวง​ศึกษาธิการ​ พร้อมด้วยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายสาโรจน์ ขอจ่วนเตี๋ยว ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการอาชีวศึกษาช่างอุตสาหกรรม, นายพีระพล พูลทวี ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เดินทางไปตรวจราชการแบบบูรณาการและเยี่ยมชมสาธิตการทดสอบประสิทธิภาพของเรือเก็บผักตบชวาแบบสายพานลำเลียงและแบบอัดก้อน เพื่อแก้ปัญหาน้ำเสียในคลองเปรมประชากร และคลองรังสิตพัฒนา เมื่อวันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า “ผักตบชวา” มีอัตราการเจริญเติบโตสูงมาก มีการสะสมมวลชีวภาพสูงถึง 20 กรัม น้ำหนักแห้งต่อตารางเมตรต่อวัน โดยมีอัตราการเจริญเติบโตสัมพัทธ์สูงสุดเท่ากับ 1.50% ต่อวัน หากปล่อยให้ผักตบชวาเติบโตในแหล่งน้ำ โดยเริ่มต้นจาก 500 กรัมน้ำหนักสดต่อตารางเมตร ในระยะเวลาเพียง 3 เดือนครึ่ง ผักตบชวาสามารถเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ให้มวลชีวภาพสูงถึง 40,580 กรัม น้ำหนักสดต่อตารางเมตร ในระยะเวลา 1 ปี ผักตบชวาสามารถเจริญเติบโตให้มวลชีวภาพสูงอยู่ในช่วง 717 ตัน น้ำหนักแห้งต่อไร่ ผักตบชวาจะเจริญเติบโตสูงสุดในช่วงเดือนเมษายน และมีการเจริญเติบโตต่ำสุดในช่วงเดือนมกราคม เป็นอุปสรรคกับการสัญจรทางน้ำ

ในการนี้ ได้มอบหมายสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดทำนวัตกรรม ร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตามโครงการ “จิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง” เพื่อแก้ปัญหาผักตบชวาที่ลอยอย่างหนาแน่นอยู่ในลำน้ำ

โดยวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา ได้คิดค้นนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์สร้างต้นแบบเรือเก็บผักตบชวาแบบอัดก้อนและแบบสายพานลำเลียง ซึ่งได้ออกแบบให้มีความกะทัดรัด สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก มีความเหมาะสมกับหน้าประตูระบายน้ำ และคลองสาขา อีกทั้งสามารถขนย้ายเพื่อไปกำจัดต่อได้ง่ายขึ้น และเพื่อให้เกิดความสะดวกในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและกรุงเทพมหานคร ที่ประสบปัญหาจากผักตบชวาที่ลอยอยู่ในแม่น้ำลำคลอง ซึ่งเป็นอุปสรรคกีดขวางทางน้ำไหลและกีดขวางทางสัญจรของเรือขนส่งและต้องการให้เป็นคลองที่มีน้ำไหลใสสะอาด โดยคาดหวังว่าปริมาณผักตบชวาในลำคลองเปรมประชากร จะมีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งการวัดผลเป็นช่วง ๆ ละ 3 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่สถานีสูบน้ำเปรมเหนือ บางปะอิน ตำบล บางกระสั้น อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงโรงเรียนสุลักขณะ ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี รวมระยะทาง 30 กิโลเมตร

สำหรับเรือต้นแบบเก็บผักตบชวาทั้งแบบอัดก้อนและแบบสายพานลำเลียง จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ และพร้อมดำเนินการจัดทำต่อให้ได้เรือเก็บผักตบชวาแบบอัดก้อน 5 ลำ และแบบสายพานลำเลียงอีก 5 ลำ รวมเป็น 10 ลำ ภายในสิ้นเดือนกันยายน 2562 สำหรับเครื่องกลเติมอากาศ มีทั้งหมด 3 แบบ คือ แบบเหนือผิวน้ำ แบบใต้น้ำ และแบบผสม ซึ่ง สอศ.ได้ดำเนินการประดิษฐ์และติดตั้งไว้ที่คลองเปรมประชากรเป็นหลัก เป้าหมายคือติดตั้งทั้งสิ้น 500 เครื่อง ระยะห่างในการติดตั้ง 50 เมตร ซึ่งขณะนี้ได้ติดตั้งไปแล้ว 430 เครื่อง โดยเหลืออีก 70 เครื่องจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2562 นี้

โครงการ “จิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง” ที่ สอศ.ร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดทำขึ้นนี้ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งพระองค์ทรงห่วงใยประชาชนและมีพระประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยการพัฒนาคลองเปรมประชากรให้เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีความสะอาด ปราศจากผักตบชวาและวัชพืชทางน้ำ กีดขวางการไหลของน้ำให้คลองใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์ สามารถไหลออกสู่แม่น้ำได้อย่างสะดวก ไร้อุปสรรค โดยเฉพาะคลองในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ไหลลงสู่กรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังเป็นแหล่งเก็บกักและระบายน้ำในฤดูฝน

นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ผลพลอยได้หลายอย่างเช่น ปุ๋ย เชื้อเพลิง เยื่อสานจากผักตบชวา และการปลูกพืชน้ำอื่น ๆ เช่น ผักบุ้ง รวมทั้งการเลี้ยงปลาด้วย และยังเป็นแหล่งค้นคว้าทดลองในการนำเทคโนโลยีที่ใช้ในการเรียนการสอนมาสร้างเป็นเครื่องมือที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้มีความสะอาด ที่สำคัญเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาอาชีวศึกษาได้มีองค์ความรู้ที่เรียนมาสร้างนวัตกรรมที่รักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ขอบคุณ  www.thailgov.go.th