วันพุธที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ (เวลา ๐๘.๓๐ น.) เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์) เป็นประธานเปิดโครงการรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ให้ผลิตภัณฑ์สารเพิ่มประสิทธิภาพพืชและผลิตภัณฑ์สารปรับปรุงดินเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก พ.ศ. …. เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สารเพิ่มประสิทธิภาพพืชและผลิตภัณฑ์สารปรับปรุงดิน สำหรับการใช้ประกอบการพิจารณาแก้ไข เพิ่มเติม ปรับปรุง ให้ครอบคลุมและสมบูรณ์ก่อนที่จะนำไปประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป ณ ห้องประชุม พีโอนี่ ชั้น ๖ อาคารล็อบบี้ โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์คอนเวนชั่น ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่าพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ได้กำหนดให้เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ประกอบธุรกิจที่จะต้องให้ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่จะได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้านั้น โดยสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณาเลือกซื้อหรือใช้สินค้าได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น ข้อความที่ปรากฏบนฉลากจึงกำหนดต้องตรงต่อความจริงและไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า โดยให้ใช้ข้อความตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ที่ผ่านมามีการจำหน่ายสินค้าที่ใช้ในทางการเกษตรที่ไม่จัดเป็นปุ๋ยตามกฎหมายว่าด้วยปุ๋ยและไม่จัดเป็นวัตถุอันตรายตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย มีการใช้ข้อความบนฉลากของสินค้าที่แสดงสรรพคุณของสินค้าในลักษณะข้อความที่อวดอ้างว่ามีคุณสมบัติหรือมีสารออกฤทธิ์ในการปรับปรุงคุณภาพดินหรือส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชซึ่งเป็นสินค้าที่เกษตรกรใช้อย่างแพร่หลาย โดยไม่สามารถทดสอบพิสูจน์ได้ว่าสินค้าดังกล่าวมีคุณสมบัติหรือมีสารออกฤทธิ์ตามที่ระบุไว้ในฉลากสินค้า คณะกรรมการว่าด้วยฉลากพิจารณาและมีมติให้ดำเนินการจัดทำร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ให้ผลิตภัณฑ์สารเพิ่มประสิทธิภาพพืชและผลิตภัณฑ์สารปรับปรุงดินเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก
ดังนั้น เพื่อให้ประกาศฉบับนี้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน สคบ. จึงได้จัดโครงการประชาพิจารณ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียต่อ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ให้ผลิตภัณฑ์สารเพิ่มประสิทธิภาพพืชและผลิตภัณฑ์สารปรับปรุงดินเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก พ.ศ. …. เพื่อเป็นการระดมความคิดเห็นเพื่อพัฒนากฎหมายให้เหมาะสมและทันต่อสภาพการณ์ในปัจจุบัน โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้แทนจากผู้ประกอบธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ เครือข่ายภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน ประมาณ ๔๐ คน