พม. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ตรวจคัดกรองโควิด – 19 เชิงรุก เพื่อสร้างมาตรการทางสังคมในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่กระทรวง พม. และชุมชนใกล้เคียง

วันที่ 22 พ.ย. 64 เวลา 09.00 น. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยทีมปฏิบัติการพิเศษศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) (เฉพาะกิจ) ร่วมกับกลุ่มเส้นด้าย กลุ่มพระธรรม กลุ่มแพทย์เปลวเทียน สมาพันธ์สื่อมวลชนช่วยเหลือสังคม และเครือข่ายนักสังคมสงเคราะห์จิตอาสาดูแลผู้ป่วยโควิดและผู้ประสบปัญหาทางสังคม ร่วมกันจัดจุดตรวจคัดกรองโควิด – 19 เชิงรุก เพื่อเป็นการสร้างมาตรการทางสังคมในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่กระทรวง พม. และชุมชนใกล้เคียง จำนวน 800 ชุด ระหว่างเวลา 09.00 – 15.00 น. ณ ลานเอนกประสงค์ ชั้น 1 ด้านข้างอาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการโดยมี นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานเปิดงานและมอบสิ่งของสนับสนุนให้กับกลุ่มเส้นด้ายและภาคีเครือข่ายเพื่อเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับประชาชนผู้ประสบปัญหาทางสังคมต่อไป

นางพัชรี กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ผ่านมา กระทรวง พม.ได้ร่วมมือร่วมกับภาคีเครือข่ายในการช่วยเหลือให้ประชาชนผู้ป่วยโควิด – 19 และผู้ประสบปัญหาทางสังคม ได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทันท่วงที ซึ่งในระยะที่ผ่านมา มีการเฝ้าระวัง ให้คำปรึกษา ส่งตรวจยืนยัน ประสานส่งต่อ โดยมีผลการดำเนินการร่วมกัน ในการส่งตรวจหาเชื้อ 3,929 คน ประสานส่งต่อหาเตียงส่งโรงพยาบาลและฮอสพิเทล 1,598 คน จัดหาถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภค 8,641 คน ส่งอาหาร 4,888 คน ให้คำแนะนำ HOME ISOLATION ร่วมกับทีมแพทย์ 1,030 คน และประสานงานเรื่องวัคซีน 6,931 คน รวมให้การช่วยเหลือทั้งสิ้น 27,017 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง ประกอบด้วย สตรีที่ประสบปัญหาทางสังคม 9,008 คน ชายที่ประสบปัญหาทางสังคม 5,120 คน ผู้สูงอายุ 1,656 คน ผู้สูงอายุพิการ 304 คน คนพิการ 637 คน หญิงตั้งครรภ์ 175 คน เด็กและเยาวชน 2,939 คน ผู้ถูกเลิกจ้าง 2,139 คน ผู้ติดเชื้อเอดส์ 109 คน ผู้ป่วยติดเตียง 461 คน และผู้ป่วยเรื้อรัง 1,758 คน โดยได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายที่เป็นการรวมกลุ่มคนทำงานเล็กๆ ร่วมกันทำงานที่ยิ่งใหญ่ ประกอบด้วย กลุ่มเส้นด้าย กลุ่มพระธรรม กลุ่มแพทย์เปลวเทียน Hope for Home เพจปันปัน WE VOLUNTEERสมาพันธ์สื่อมวลชนช่วยเหลือสังคม เครือข่ายนักสังคมสงเคราะห์จิตอาสาดูแลผู้ป่วยโควิด และผู้ประสบปัญหาทางสังคม และ JITARSA.CARE ตลอดจนองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง

นางพัชรี กล่าวต่อไปว่า วันนี้จึงได้มีการจัดกิจกรรมจุดตรวจคัดกรองโควิด – 19 เชิงรุก “รักษามาตรการด้วยระยะห่าง และคัดกรองโควิดด้วยมาตรฐาน จากความร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันของภาคีเครือข่าย” โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. และภาคีเครือข่าย เพื่อตระหนักและร่วมให้ความสำคัญในการดำเนินการตามมาตรการ D-M-H-T-Tโดยมีการวางระบบดิจิทัลเพื่อลงทะเบียน และตรวจโดยใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit และหากพบว่ามีการเสี่ยงติดเชื้อจะนำส่งตรวจ RT-PCR ต่อไป มุ่งเน้นการตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว สร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน อันเป็นการสร้างมาตรการทางสังคมในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และชุมชนใกล้เคียง จำนวน 800 คน ทั้งนี้ จากการตรวจคัดกรองโควิด – 19 ในช่วงเช้า จำนวน 400 คน ผลปรากฎว่าทักคนไม่พบเชื้อโควิด – 19

นางพัชรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกหน่วย ที่ร่วมมือร่วมใจขับเคลื่อนการช่วยเหลือประชาชนด้วยดีตลอดมา ตั้งแต่สถานการณ์วิกฤตโควิด – 19 มีความรุนแรง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ทุกคนทำงานแบบ Collaborative Working Team ด้วยใจเสียสละ ลงพื้นที่ช่วยเหลือกัน ร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันมีชุดปฏิบัติการพิเศษช่วยเหลือเคสอย่างเร่งด่วน ทำงานอย่างครบวงจร ด้วยเป้าหมายสำคัญเดียวกันเพื่อช่วยเหลือเคสให้ได้รับการดูแล ทั้งการสาธารณสุข จิตใจ และทางสังคม นำไปสู่การทำงานข้ามมิติ ข้ามสังกัด เป็นการบูรณาการทำงานที่แท้จริงบนพื้นฐานใจเดียวกัน เอื้ออำนวยซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์และความสำเร็จร่วมกันต่อการดำเนินงานที่มีประโยชน์ต่อประชาชนและสังคม นำไปสู่การแสดงออกถึงความเข้มแข็งในการทำงานอาสาสมัคร ด้วยใจรัก และอุทิศตนเป็นสำคัญ ก่อให้เกิดการลดการเสียชีวิต บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 โดยเร็วที่สุดซึ่งกระทรวง พม. มีศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 คอยรับเรื่องราวร้องทุกข์และประสานการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคมอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนส่งเสริมการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ร่วมบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และจะก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

#########################################